เรียกได้ว่าวิกฤตวงการบันเทิงตอนนี้ทำเหล่านักแสดงและทีมงานเบื้องหลังได้รับผลกระทบไปตามๆกันเลยทีเดียว ไม่เว้นแม้แต่นางเอกตัวท็อปอย่าง “กรีน อัษฎาพร” ที่แม้จะไม่ได้รับผลกระทบหนักจนถึงขั้นไม่มีงาน
แต่ก็ต้องมีการปรับตัวและหารายได้ทางอื่น อย่างการไลฟ์สดพูดคุยในติ๊กต๊อก
ล่าสุด กรีน ก็ได้เปิดใจถึงการผันตัวมาไลฟ์ติ๊กต๊อกในรายการ โต๊ะหนูแหม่ม ด้วย เอาเป็นว่าที่มาที่ไปจะเป็นยังไงนั้นไปอ่านกันเลยดีกว่า
ช่วงหลังเห็นขยับมาไลฟ์สดหาเงินทางออนไลน์ ทำมานานหรือยังคะ ?
กรีน : ไลฟ์มาตั้งนานแล้วค่ะ แต่ว่าไม่ได้ทำต่อเนื่อง พึ่งมาต่อเนื่องเมื่อเดือนที่แล้วค่ะ ไลฟ์อย่างต่ำประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ
เอาเรื่องอะไรมาไลฟ์มาคุยได้ตลอดอะ ?
กรีน : คนเข้ามาหมุนเวียนตลอดเลยค่ะ บางทีก็เป็นเรื่องเดิมๆเรื่องละคร ชอบบทนี้จังเลยก็จะเป็นคนใหม่ที่ถามคำถามเดิม หนูก็ตอบคำถามเดิม
ทำไมถึงมาทำ ?
กรีน : ทุกอย่างโยกมาอยู่ออนไลน์หมดเลย การไลฟ์มันก็เหมือนงานๆนึง แต่พอมันโยกมาอยู่ออนไลน์มันเหมือนกับเป็นการพูดคุย อย่างที่หนูทำก็ไม่ได้พูดคุยอย่างเดียว ก็จะมีเซคชั่นที่เป็นร้องเพลง มีเซคชั่นที่เป็นการทาบำรุงในส่วนของครีม แต่ว่าตามใจหนูนะ ไม่ได้มีอะไรที่เป็นข้อจำกัดอะไรที่เป็นตัวเรานึกอยากทำอะไรทำ กลับมาบ้านก็รู้สึกอยากรีบไปอาบน้ำเพราะว่าจะมาไลฟ์ อยากไลฟ์อยากเจอแฟนคลับ มันเป็นเหมือนพื้นที่ใหม่ได้เจอคนใหม่ๆ ทำแล้วทำให้เราได้เจอกับคนที่เรา ไม่เคยได้เจอมานาน อย่างเพื่อนๆที่ประกวดเอเอฟที่ไม่เจอกัน ก็มาเจอกันที่ไลฟ์ ส่วนเรื่องรายได้ กรีนคิดว่ามันเป็นเรื่องของผลพลอยได้มากกว่า ถึงแม้ในใจลึกๆเราจะอยากได้ตังค์ก็ตามเป็นค่ากะปิน้ำปลาไป
จากสถานการณ์วิกฤตละครส่งผลกระทบเรายังไงบ้าง ?
กรีน : ก็มีไม่กี่เรื่อง ที่น้อยลงเพราะว่าหนูรู้สึกอยากโฟกัส ก็เลยเหลือปีละ 2 เรื่อง 2 ควบ 3 อะไรแบบนี้ ก็มีกระทบบ้าง เราอาจจะน้อยกว่าคนอื่น อย่างเราก็ทำงานในวงการมาระยะหนึ่ง คาแรคเตอร์กรีนแบบนี้น่าจะไปใส่กับในหลายๆ เรื่องได้ เราไม่ได้เก่งนะ แต่เราได้เลือกง่ายกว่าคนอื่นๆ เรายังมีช้อยท์ที่ได้ไปลงในเรื่องต่างๆ
แล้วเพื่อนๆ ที่เรารู้จัก วิกฤตครั้งนี้เค้าต้องมีปรับตัวกันมั้ย ?
กรีน : ก็ปรับค่ะ คนใกล้ตัวก็ปรับกัน อย่างหนูก็มีมาหารายได้ในช่องทางอื่นที่ยังทำให้คนไม่ลืมเรา เพราะละครเรื่องนึง หรือซีรีส์เรื่องหนึ่งใช้เวลาในการถ่ายค่อนข้างจะเยอะอยู่แล้ว อย่างต่ำๆ เลย 16 ตอน ก็ต้องมีอย่างน้อยแน่ๆ เลย 5 เดือน ซึ่งมันก็จะทำให้เราหายไปเลย 5 เดือน เราก็ต้องมาคิดว่า 5 เดือนนั้นว่าจะทำอะไร ถ้าเราไม่สร้างช่องทางหรือเปิดการมองเห็นให้กับตัวเอง
เรียกได้ว่าแม้แต่นางเอกตัวท็อปยังต้องมีการปรับตัวเลยละค่ะ แต่ก็ไม่คิดจะทิ้งวงการบันเทิงแน่นอน
ขอบคุณข้อมูล : รายการโต๊ะหนูแหม่ม