จากสถานการณ์ข้อพิพาท ไทย-กัมพูชา ทางด้าน ทบ.เผยสถานการณ์ช่องบกคลี่คลาย หลังฝ่ายกัมพูชาเจรจากับกองกำลังสุรนารี โดยเห็นชอบการปรับการวางกำลังเพื่อลดการเผชิญหน้า พร้อมกลบคูเลตกลับไปสู่สภาพเดิม สร้างบรรยากาศที่เกื้อกูลต่อการประชุม JBC ใน 14 มิ.ย. 68
โดยเมื่อ 8 มิ.ย.68พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา โดย พลโท สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3
ได้เชิญฝ่ายทหารไทย นำโดย พลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วย พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 เข้าร่วมหารือ
เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่บริเวณช่องบกจากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ
คือ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบการปรับการวางกำลังให้กลับไปสู่แนววางกำลังเดิมเมื่อปี พ.ศ. 2567 เพื่อลดการเผชิญหน้า พร้อมทั้งกลบคูติดต่อ(คูเลต) กลับไปสู่สภาพเดิม
สร้างบรรยากาศที่เกื้อกูลต่อการประชุม JBC ใน 14 มิ.ย. 68 ซึ่งเป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนอย่างยั่งยืนต่อไปนอกจากนี้
ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้ กลไกคณะกรรมการชายแดน ส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางหารือการแก้ไขปัญหาระดับพื้นที่อย่างต่อเนื่องในอนาคต
ซึ่งทางเพจ กองบัญชาการกองทัพไทย Royal Thai Armed Forces Headquarters ยังได้ออกมาเผยภาพถ่ายทางอากาศ ช่องบกอยู่ในเขตประเทศไทย
พร้อมระบุข้อความว่า”หลักฐานยืนยันจากภาพถ่ายทางอากาศ ช่องบกอยู่ในเขตประเทศไทย จากเหตุการณ์ปะทะบริเวณช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568
หลักฐานที่ชัดเจนจากภาพถ่ายทางอากาศแสดงให้เห็นว่าช่องทางบกซึ่งเป็นจุดปะทะนั้นอยู่ในเขตแดนของประเทศไทยอย่างแน่นอน
แผนที่ที่ฝ่ายกัมพูชาใช้อ้างอิง เป็นแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ซึ่งแนบท้ายมาจากสนธิสัญญาสยาม–ฝรั่งเศส ค.ศ. 1907 โดยเป็นแผนที่ที่มีรายละเอียดไม่เพียงพอ
ไม่สามารถแบ่งเขตแดนได้อย่างชัดเจน และไม่ยึดตามหลักเขตสันปันน้ำตามที่ระบุไว้ในสนธิสัญญาดังกล่าว ขณะที่ฝ่ายไทยใช้แผนที่มาตราส่วน 1:50,000
โดยอ้างอิงจากแผนที่ชุด L7018 ซึ่งมีความละเอียดสูงมาก และจากภาพถ่ายทางอากาศปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าพื้นที่ช่องบกอยู่ในเขตประเทศไทย
#แผนที่แสดงเขตอธิปไตยไทย#ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด#WEAREONEWEWIN”
กองบัญชาการกองทัพไทย Royal Thai Armed Forces Headquarters