กลายเป็นกระแสไวรัลบนโลกออนไลน์ เมื่อผู้คนได้เห็น เฉินหลง หรือ แจ็กกี้ ชาน วัย 71 ปีในลุคที่ต่างไปจากเดิม เขาสวมแว่นสายตา ผมขาวโพลน ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยย่น โดยไม่กี่เดือนก่อนเขายังดูสดใสอยู่ในกิจกรรมที่ออสเตรเลีย
แต่เวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายกลับรวดเร็วอย่างน่าใจหาย หลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมเฉินหลงจึงดูแก่กว่าคนวัยเดียวกัน คำตอบอาจอยู่ที่ความทุ่มเทในอดีต ตลอดอาชีพการแสดง
เฉินหลงเป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงผู้ไม่ใช้สตันท์แมน เขาทุ่มเททั้งชีวิตกับหนังแอ็กชัน ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดตึก ขับรถชน หรือฉากต่อสู้สุดอันตราย ในภาพยนตร์ Who Am I (1998)
เขากระโดดจากตึกสูงโดยไม่มีอุปกรณ์เซฟตี้ ขณะถ่าย Project A (1983) เขาพุ่งลงมาจากชั้น 15 โดยไม่ลังเล ผลของความทุ่มเทนี้ทำให้เขาบาดเจ็บไม่น้อย มีคนเคยคำนวณว่า
จำนวนครั้งที่เขาได้รับบาดเจ็บจากการถ่ายหนังนั้น มากพอที่จะขอรับบัตรคนพิการได้หลายใบเลยทีเดียว เขากระดูกหักแทบทั้งร่าง สมองเคยถูกกระทบจนกระดูกเสียบเข้าไป
สิ่งนี้คือราคาที่เขาจ่ายเพื่อความสำเร็จ และเพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้ชมทั่วโลก เบื้องหลังตำนานนักบู๊ คือชีวิตที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เฉินหลงเกิดในครอบครัวยากจนที่ฮ่องกง ก่อนที่จะได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่ออสเตรเลีย
สุดท้ายถูกครอบครัวส่งกลับมาฮ่องกง เพื่อเข้าสำนักฝึกงิ้วที่ขึ้นชื่อเรื่องความโหดตั้งแต่ 7 ขวบ เขาต้องตื่นแต่เช้า ฝึกหนักจนแทบไม่มีอาหารตกถึงท้อง แต่ด้วยความมุ่งมั่น เขาฝ่าฟันจนได้เข้าสู่วงการบันเทิง
เริ่มจากการเป็นตัวประกอบ ก่อนจะได้เป็นสตันต์ของบรูซ ลี จนกลายเป็นดาวเด่นใน Drunken Master (1978) ที่ทำให้ชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เฉินหลงไม่ใช่แค่นักแสดง แต่ยังเป็นคนจิตใจดี เขาเคยบริจาคเงินช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เวิ่นชวน มอบเงินแก่ครอบครัวนักดับเพลิง
และรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเพื่อฝึกวิชากังฟูให้มีอนาคต ทว่าการฝืนตลอดชีวิตก็เริ่มส่งผล ร่างกายที่บาดเจ็บสะสมเริ่มทรุดโทรม มือสั่น เดินลำบาก เป็นผลที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จากอดีตที่ทำงานอย่างหนัก
ขอบคุณข้อมูล: Jeenthainews – จีนไทยนิวส์
