โหรฟองสนาน จามรจันทร์ ทำนาย เตรียมรับมืออุบัติภัย-เสียหาย-เศร้าโศกร้ายแรงรอบใหม่ ดังที่ได้ทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่าปี2568นี้เมืองจะเจอกับอุบัติเหตุ หรืออุบัติภัยครั้งใหญ่ระดับเป็นข่าวไปทั่วโลกถึงสี่รอบ รอบแรกเกิดไปแล้วอย่างคลุมเครือแต่ลือลั่นโครมครามสนั่นเมืองและโลก-น่าอับอายขายหน้า
เมื่อแผ่นดินไหวที่รอยเลื่อนสะกาย เมียนมา เมื่อ28มีนาคม 2568 เวลา13.20น.แต่ตึกสตง.ไทยที่กำลังก่อสร้างที่กรุงเทพฯกลับถล่ม
เหมือนเปื่อยเป็นตมราบลงเป็นภูเขาเลากา มีคนตายเฉียดร้อย ยังไม่นับที่บาดเจ็บหลังจากนั้นภัยพิบัตินั้นก็จางไปกับการเก็บกู้และดำเนินคดียาวเหยียด
ต่อไปนี้เป็นวาระรอบสองที่เคยบอกไว้เป็นกรอบกว้างๆให้เตรียมตัว-เตรียมใจกันไว้คือระหว่างประมาณ 29 กรกฎาคม-23สิงหาคม 2568
ก่อนหรือหลังประมาณเจ็ดวันนั้น เพื่อหลีกเหลี่ยงการเป็นโหรแนวจิตนิยม -ไร้หลักนึกอยากทำนายอะไรก็ทำนายผู้เขียนจึงขออนุญาต
อ้างปรากฎการณ์ทางโหร(แม้จะเกรงใจท่านที่ไม่มีพื้นฐาน)อันเป็นที่มาของถึงอุบัติภัยรอบใหม่ดังนี้
1.ปรากฎการณ์ใหญ่รออยู่ระหว่างกรกฎาคม2565-กรกฎาคม2572เป็นเวลาประมาณ7ปีคือมฤตยูจร(0)เจ้าของภัยอาเพศ
เดินในราศีพฤษภทับพระอังคารดวงเดิมดวงเมือง(๓)และยังเป็นดาวประจำชีพ(ตนุลัคน์)ของเมืองด้วย ดาวคู่นี้เมื่อพบกันคือสื่อล่อคู่อุบัติเหตุใหญ่
ที่จะเกิดอย่างอาเพศ หรือเป็นคู่ที่จะก่อความวิบัติให้อย่างฉับพลันทันด่วนบางคราวเหนือจินตนาการ แล้วนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงใหญ่
เช่นตึกกำลังก่อสร้างกลายเป็นกองเศษหินปูทราย มฤตยูจร(0)เดินในราศีพฤษภยังทับพระเกตุดวงเดิม(๙)ซึ่งดาวคู่นี้เป็นคู่คลุมเครือ- ไม่ชัดเจน- มึนๆงงๆ
เช่นแผ่นดินไหวที่มัณฑะเลย์ แต่ตึกสตง.ที่กรุงเทพฯกลับถล่มฯลฯ ตัวอย่างปราฎการณ์มฤตยูเดินในราศีพฤษภที่ล่อเหตุอุบัติใหญ่ผุดขึ้นในเมืองในอดีต
เช่นคราวกองทัพญี่ปุ่นบุกไทยเมื่อคราวสงครามมหาเอเซียบูรพา หรือพันธมิตรเททิ้งระเบิดใส่กรุงเทพเมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่สอง
หรือยุทธนาวีที่เกาะช้างของทหารเรือไทยฯลฯที่ล้วนเรื่องใหญ่ระดับอภิมหาอาเพศทั้งนั้นเมื่อเกณฑ์คู่อุบัติเหตุอาเพศใหญ่
และคู่คลุมเครือรออยู่ก่อนแล้วดังนี้ต่อไปนี้รอบนี้ก็มีตัวจุดประกายให้เกิดเหตุการณ์เป็นลำดับๆคือ
2.เกณฑ์รอผสมโรงระหว่าง29กรกฎาคม-23สิงหาคม2568 ในดวงชะตาเมืองเกิดการสมาสัปต์หรือตรึงกันของดาวสองดวง
คือพระเสาร์กับพระอังคาร(พระเสาร์จร7เดินในราศีมีนทำมุมพิเศษถึงพระอังคารดวงเดิม๓ที่ราศีพฤษภ และพระอังคารจร3
เดินในราศีกันย์ทำมุมพิเศษถึงพระเสาร์ดวงเดิม๗ในราศีธนู) อาการดาวตรึงกันนี้ในทางโหรแล้วเหตุการณ์แนวลบจะเกิดแน่นอน
ไม่ว่าจะเป็นคู่ใดไม่ต้องรอดาวอื่นมาจุดชนวน ยกเว้นดาวคู่มิตรตรึงกันจึงจะออกอาการบวก พระเสาร์กับอังคารนี้ทางโหรถือเป็นคู่ศัตรูเบาออกแนวคู่อุบัติเหตุ
หรือเจ็บตายกะทันหัน จึงมั่นใจได้ก่อนล่วงหน้าเลยว่า ระยะระหว่าง29กรกฎาคม-23สิงหาคม2568(ก่อน-หลังเจ็ดวัน)อุบัติเหตุใหญ่
วินาศสันตะโรใหญ่รอเกิดแน่นอน หนีไม่พ้น โดยช่องทางเกิดจะเป็นไปได้ทุกทางทั้งดิน-น้ำ-ลมหรืออากาศหรือแก๊ส-ไฟหรือควันหรือระเบิด
ที่ผู้เขียนขออ่านสัญญาณทางโหรคลำดูทางในรายละเอียดที่มีโอกาสจะผิดพลาดได้คือ ก.การเกิดรอบนี้ยังจะเป็นไปในลักษณะมึนงง คลุมเครือ
เหมือนรอบที่แล้วที่แผ่นดินไหวมัณฑะเลย์แต่ตึกสตง.ที่กรุงเทพฯถล่มทั้งๆที่ห่างจากจุดแผ่นดินไหว1,100กิโลเมตรชนิดที่เห็นครั้งแรก
แล้วยังคิดว่าไม่ใช่ตึกในประเทศไทยที่พัง(มฤตยูจรoเจ้าของภัยอาเพศทับพระอังคาร๓และพระเกตุ๙ดวงเดิม) ข.ให้ระแวงไว้ก่อนว่าการเกิดรอบนี้น่าจะเกิดใกล้น้ำ หรือในน้ำ
ค.ถึงจะเกิดใกล้น้ำหรือในน้ำแต่เกณฑ์เรื่องไฟ-ความร้อนก็เด่น เสี่ยงต่อการเกิด…ภัยไฟพิษ..(พระอังคารจร3ที่ราศีกันย์ถึงพระอาทิตย์ดวงเดิม๑)
ที่ราศีเมษ จึงเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะเป็นไฟใกล้น้ำ?หรือเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเป็นลม-แก๊ส?(พระอังคารจร3ที่ราศีกันย์เล็งราหู๘ดวงเดิมที่ราศีมีน)
ง.ปรากฎการณ์รอบนี้มีโอกาสเกิดกับคนหรือของรักของเมืองที่ต้องเฝ้านะวังให้ดี ตามโฉลก…ของรักอันใดประหยัด พึงระมัดจงดี…
(ทักษาจรเมืองตกภูมิอาทิตย์)เช่นในอดีตสะพานพระรามหก สะพานพระพุทธยอดฟ้าฯเคยถูกทิ้งระเบิด หรือเสียเรือหลวงธนบุรี เรือหลวงสงขลา
และเรือหลวงชลบุรี ทหารเสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 36 คนคราวยุทธนาวีที่เกาะช้างฯลฯ จ.ปรากฎการณ์รอบนี้น่าจะนำมาซึ่งความสูญเสียชีวิต
และทรัพย์สินมากมายมีความเศร้าโศกเสียใจไปทั่วเมือง(พระเสาร์ตรึงกับพระศุกร์เป็นคู่ศัตรูใหญ่)ตามโฉลก… อายุบ่ยืนเย็น มฤตภัยจะเร่งเกรง….
(พระเสาร์จร7ทับพระศุกร์ดวงเดิม๖)และ และพระยม(บาล) หมายถึงความตายและการเจ็บหนักแบบต้องรักษาดูแลยืดเยื้อจะเล่นงานในเมืองตามโฉลก…อุบาทว์พระยม
จะย่ำจะยีอาตมา(พระศุกร์จร6ที่ราศีเมถุนเล็งพระเสาร์ดวงเดิม๗ที่ราศีธนู) สุดท้ายแม้อยากเป็นโหรที่ทำนายแม่นยิ่งกว่าตาเห็นผู้เขียนก็อดหวังไม่ได้ว่า คำทำนายนี้ผิดพลาด
และคลาดเคลื่อน เหตุร้ายแรงจะไม่เกิดในเมือง แต่ถ้าหนีไม่พ้นเพราะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดก็มีแต่คาถาแคล้วคลาดของหลวงปู่มั่น
บทเดิมมาฝากให้ภาวนาไว้ให้ติดจิต คือนะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา ถ้ากรรมไม่หนักนักก็คงได้แคล้วคลาด”
ขอบคุณข้อมูล: Fongsanan Chamornchan