จากกรณีกัมพูชายิงจรวดใส่ไทยตกใส่บ้านเรือนประชาชน และร้านสะดวกซื้อ จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย ล่าสุด ทางด้าน อ.เจษฎ์ ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงอาวุธของกัมพูชาว่า “จรวดที่ยิงจากทางกัมพูชา ใส่ไทยเรา น่าจะเป็นระบบ BM-21 “Grad”
ซึ่งความแม่นยำต่ำมาก ใช้ยิงใส่เป็นชุดๆ … โอกาสตกนอกพื้นที่เป้าหมาย เป็นได้สูงมากๆ ถึงได้ลงบ้านคนกัน 😞
ป.ล. ที่เขียนนี่ เพื่อสื่อว่า กัมพูชาไม่ควรใช้อาวุธที่ยิงแบบไม่แม่นยำอย่างนี้นะครับ เครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 (รัสเซีย: БМ-21 “Град”; อังกฤษ: BM-21 “Grad”
launch vehicle; BM ย่อมาจาก boyevaya mashina หรือ ‘combat vehicle’) เป็นเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องแบบติดตั้งท้ายรถบรรทุกของสหภาพโซเวียต
ใช้กับจรวด M-21OF ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 122 ม.ม.ระบบจรวดแบบนี้ได้รับการพัฒนาในช่วงต้นทศวรรษ 1960 เพื่อแทนที่เครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-14
ขนาด 140 ม.ม. รุ่นก่อนหน้า โดยพัฒนามาจากเครื่องยิงจรวดคัตยูชา (บีเอ็ม-13) ที่ใช้งานมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่สอง เริ่มประจำการครั้งแรกในปี ค.ศ. 1963
ปัจจุบันเครื่องยิงจรวดรุ่นนี้มีประจำการในหลายสิบประเทศในกลุ่มประเทศสนธิสัญญาวอร์ซอ และได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อผลิตขึ้นใช้เองสำหรับกองทัพเบลารุส ยูเครน
จีน เชโกสโลวาเกีย อียิปต์ เกาหลีเหนือ อิหร่าน ปากีสถาน โรมาเนีย และแอฟริกาใต้ ระบบยิงจรวดแบบนี้ ประกอบด้วยเครื่องยิงจรวดจำนวน 40 ลำกล้อง
(4 แถวๆละ 10 ลำกล้อง) ติดตั้งบนรถบรรทุก 6 ล้อ และรถบรรทุกจรวดจำนวน 60 ลูก สำหรับบรรจุจรวดใหม่ ในหนึ่งหน่วยใช้ทหารประจำการ 5 นาย
สามารถยิงจรวดทั้งหมด 40 ลูกได้ภายใน 20 วินาที และบรรจุใหม่ได้ใน 10 นาที จรวดแต่ละลูกมีความยาว 2.87 เมตร (9 ฟุต 5 นิ้ว)
มีพิสัยยิง 20-30 กิโลเมตร น้ำหนักหัวรบ 20 กิโลกรัมภาพจาก ”
ข้อมูลจาก ”
ขอบคุณข้อมูล: Jessada Denduangboripant