ปราย พันแสง วิเคราะห์ เทียบเทรนด์โลก ทำไมเขมรไม่เก็บศพทหาร

จากเหตุปะทะกันระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนหน้านี้มีประชาชนและทหารแนวหน้าได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิตหลายรายเลยทีเดียว แม้ตอนนี้จะสั่งหยุดยิงไปแล้ว แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา ปราย พันแสน ได้ออกมาโพสต์วิเคราะห์ ระบุว่า ทำไมไม่เก็บศพทหาร จากรัสเซีย-ยูเครน ถึง ไทย-กัมพูชา กับเทรนด์โลก “ไม่มีศพ, ไม่มีปัญหา”

เมื่อคืนดูคลิปชาวกัมพูชา live ตามหาคนในครอบครัวที่หายไป มีคนไทยเข้าไปคอมเมนต์เยอะมาก ชาวไทยบางคนตาดี เอาภาพมาเทียบกับเชลยศึกที่ทหารไทยคุมตัวอยู่ว่านี่ใช่มั้ย บางคนหน้าเหมือนเป๊ะ เหมือนจะใช่จริงๆ ด้วย!

มีบางคนเข้าไปด่าหยาบคายบ้าง แต่เป็นส่วนน้อย แสดงว่าคนไทยคงมีความเห็นใจหัวอกประชาชนคนตัวเล็กๆ ในฐานะผู้สูญเสียอยู่บ้าง

จู่ๆ ก็มีคลิปเด้งมา มีชายไทยคนหนึ่งบ้านอยู่แถวแนวสูัรบ ถ่ายภาพตอนดึก อัดคลิปเสียงหมาหอนเกรียวตลอดแนว โดยมีเสียงบรรยายว่าตั้งแต่มีการสู้รบ เป็นอย่างนี้ทุกคืน หมาหอนไม่หยุด และส่งกลิ่นเหม็นเน่า

พลตรีวันชนะ สวัสดี รองโฆษกกองทัพไทย เผยในรายการ “โหนกระแส” ว่าชาวกัมพูชากำลังตามหาคนหายจำนวนมาก และเริ่มได้กลิ่นศพจากชายแดน สอดคล้องกับรายงานเดลินิวส์ที่ระบุว่าร่างทหารกัมพูชา “เกลื่อน” แนวรบ

แต่ไม่มีฝ่ายกัมพูชาไปเก็บ ทหารไทยพยายามช่วยเก็บศพเพื่อส่งคืนตามมนุษยธรรม แต่ได้รับการปฏิเสธ โดยฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าไม่ใช่ทหารของตน การปฏิเสธนี้ดูเป็นระบบ ไม่ใช่กรณีเดียว ดูผิดปกติและมีคำถามถึงนโยบาย

การเปรียบเทียบกับกรณีรัสเซีย-ยูเครน เทรนด์ “ทิ้งศพ” ในสงครามยุคใหม่ กรณีนี้คล้ายกับนโยบายรัสเซียในสงครามยูเครน

ที่ทิ้งศพทหารตนเองเพื่อหลีกเลี่ยงจ่ายเงินชดเชย โดยใช้การรายงานว่า “หายไปในการปฏิบัติการ” แทน “เสียชีวิต”

ปูตินลงนามกฎหมายให้เงินชดเชยสูงถึง 7.4 ล้านรูเบิล (ราว 68,800-75,000 ดอลลาร์) ต่อศพ บวกเงินรายเดือน แต่ในทางปฏิบัติ ทหารได้รับคำสั่งไม่ให้เก็บศพ เพื่อประหยัดงบ (ตามหลักการ “ไม่มีศพ ไม่มีปัญหา”)

ข้อมูลจาก Newsweek ระบุว่า รัสเซียจ่ายเงินชดเชยรวม 2.75-3 ล้านล้านรูเบิลในปี 2023-2024 (1.4-1.6% ของ GDP) แต่หลีกเลี่ยงด้วยการทิ้งศพ ทำให้ครอบครัวไม่ได้รับเงินและต้องทุกข์ทรมาน

รัสเซียมีนโยบายลับทิ้งศพทหารของตนเองเพื่อประหยัดเงินชดเชย ยูเครนได้รับศพทหารของตนคืนจากรัสเซียกว่า 6,057-6,060 ศพ ขณะที่รัสเซียได้รับศพทหารของตนคืนจากยูเครนเพียง 78 ศพ

ในการแลกเปลี่ยนปี 2025 (themoscowtimes)และที่โหดร้ายกว่าคือรัสเซียยังแอบส่งศพทหารของตนเองปนมากับศพยูเครนด้วย

การที่ศพกลายเป็นเครื่องมือการเมือง ทำให้ครอบครัวผู้สูญเสียต้องทุกข์ทรมานยิ่งขึ้น ขณะที่ยูเครนเองก็เผชิญปัญหาภาระต้องจ่ายเงินชดเชยจำนวนมากเช่นกัน การทิ้งศพนอกจากประหยัดเงิน

ก็ยังช่วยปกปิดตัวเลขผู้เสียชีวิตจริง ลดแรงกดดันทางการเมือง โดยกฎหมายรัสเซียปี 2015-2021 ทำให้การเปิดเผยข้อมูลเป็นความลับของรัฐและมีโทษอาญา

ระบบเงินชดเชยในกัมพูชา และเหตุผลที่เป็นไปได้ ในเหตุการณ์ระเบิดที่ฐานทัพในจังหวัด Kampong Speu เมื่อเดือนเมษายน 2024 ทำให้ทหาร 20

นายเสียชีวิต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา นายฮุน มาเนตได้ให้คำมั่นว่ารัฐบาลจะออกค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพและให้การชดเชยแก่ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ

แต่ยังไม่มีข้อมูลยืนยันว่าจะมีการจ่ายอัตราใดๆ สำหรับทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตจากการสู้รบไทย-กัมพูชาล่าสุดนี้

เหตุผลที่กัมพูชาปฏิเสธรับศพ อาจจะไม่ใช่เรื่องเงินเป็นหลัก แต่อาจจะเป็นเรื่องความภาคภูมิใจของชาติ ที่ไม่ต้องการยอมรับความพ่ายแพ้ อาจเป็นความพยายามในการรักษาภาพลักษณ์ของรัฐบาลใหม่ ฮุน มาเนต

ซึ่งยิ่งดูแปลกและไร้เหตุผลมากกว่ารัสเซีย เพราะรัสเซียอย่างน้อยยังมีแรงจูงใจทางเศรษฐกิจที่เราพอเข้าใจได้

หรืออาจจะเป็นเทรนด์ของสงครามยุคใหม่ ที่ผู้นำประเทศผุดไอเดียขึ้นมาตรงกันว่า “ทิ้งศพไปเลยดีกว่าเพราะมันมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่ากันเยอะ”

ศพทหารที่เสียชีวิตควรได้รับการเคารพตามกฎหมายสงครามสากล การทิ้งศพไว้ตามสนามรบ เผยให้เห็นความโหดร้ายของสงคราม ที่แม้ความตายยังถูกคำนวณด้วยเงินและการเมือง

การทิ้งศพไม่เพียงสร้างปัญหาสุขอนามัยและจิตใจ แต่ยังขัดต่อหลักมนุษยธรรม และทำร้ายจิตใจครอบครัวของผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมาก

ขอบคุณข้อมูล : ‘ปราย พันแสง