ทนายแก้ว ร่ายยาว หลัง หมอบี แจงปมเงินบริจาค

จากกรณีที่ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ได้มาออกรายการโหนกระแส พร้อมกับชี้แจงประเด็นเงินบริจาค ล่าสุด ทางด้าน ทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ยังได้ออกมาโพสต์ร่ายยาวหลังได้ดูโหนกระแสจบว่า “😖ฟังโหนกระแสวันนี้ บอกเลย งงในงง เรื่องง่ายๆทำไมอธิบายให้ดูงงจัง😗

จริงๆมันไม่มีอะไรซับซ้อนเลยครับมันดูที่สารตั้งต้นว่า…คุณประกาศโฆษณาว่านำเงินไปใช้อะไร? แล้วคุณได้เอาไปใช้ตามที่คุณโฆษณาประกาศหรือเปล่า ?

🙏(เงินเข้าเท่าไหร่ เงินก็ต้องออกเท่ากัน)แต่ปัญหาเรื่องนี้ที่คนสงสัยคือเข้าไม่ตรงกับออก😁

*ทนายชอบพูดว่าต้องเป็นการตั้งคำถามเป็นประเด็น พี่แก้วว่าคงไม่ต้องไปตั้งคำถามเป็นประเด็นอะไรมากมาย

ฟังแล้วก็ตอบแบบเข้าใจง่ายๆได้ เช่นกรณีที่ออกใบอนุโมทนาบัตรกันเอง แบบนี้บอกเลยว่าไม่ได้ ไม่เห็นต้องคิดนาน #เรื่องนี้มีประเด็นหลักที่สงสัยกันเพียงว่า….

1)มีการนำเงินที่เปิดรับบริจาคไปใช้เป็นการส่วนตัวหรือไม่?

2)นำเงินบริจาคที่เบิกถอนมาไปให้วัดหรือพระครบตามจำนวนที่เบิกหรือไม่? มีการเก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัวบางส่วนหรือไม่?

3)เงินเข้าบัญชีวัดเท่าไหร่ นำไปใช้อะไร?

4)วัด/พระ ร่วมรู้หรือแบ่งหน้าที่หรือไม่?

👌ส่วนประเด็นเรื่องปลายน้ำหรือปลายทาง จะมีการทำโครงการเป็นประโยชน์ มันคนละเรื่อง ทุกขั้นตอนต้องถูกต้อง✔️

(เงินเข้าเท่าไหร่?เงินก็ต้องออกเท่ากัน)แม้จะมีการนำเงินบริจาคบางส่วนไปใช้บางอย่างอาจจะไม่ตรงตามความประสงค์ทั้งหมดก็ตาม

แต่หากว่ามีการนำเงินบริจาคไปใช้หรือเก็บไว้ส่วนตัวบางส่วน แบบนี้ก็มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนได้จร้า ผิดม. 343

*พี่แก้วขอสมมุติว่ามีการบริจาคมา 10 บาท ถอนเงินมา 10 บาท แต่ให้วัด 8 บาท แบบนี้อีก 2 บาทไม่ปรากฏว่าวัดได้รับแบบนี้ อาจมีความผิดได้

*ซึ่งการเบิกถอนเป็นเงินสดออกมาและยืนยันว่ามอบให้วัดไปทั้ง 10 บาทแล้ว แบบนี้การพิสูจน์ก็ต้องไปดูว่าวัดได้รับเงินครบ 10 บาทหรือไม่?

หากวัดได้รับเงิน 7 บาท และมีการลงบัญชีแค่ 7 บาท แบบนี้อาจเหนื่อยได้ เพราะคนที่นำเงินไปให้ก็ต้องยืนยันว่ามีแค่ 7 บาท

แม้จะอ้างว่ารับบริจาคมาให้พระ แต่หากมีใบอนุโมทนาบัตรที่ออกในนามของวัดและมีการประทับตราวัด แบบนี้ในทางกฎหมายก็ถือว่าเงินดังกล่าวต้องเป็นเงินของวัด

และต้องให้วัดออกใบฯเท่านั้น*การที่บอกว่าแม้วิธีการอาจจะแปลก แต่ปลายทางปลายน้ำมีการทำประโยชน์ ประชาชนได้ประโยชน์นั้น

แต่ว่าหากต้นน้ำ คือในเรื่องของเงินที่ได้รับมาได้ไม่ครบตามจำนวนที่รับบริจาค แบบนี้ปลายทางหรือปลายน้ำก็คงไม่มีประโยชน์อะไร?

ดังนั้น การพิสูจน์จึงต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เงินทุกบาทในการบริจาคได้ส่งมอบให้วัดไปครบถ้วนแล้ว ส่วน(นาทีที่ 1.51 เป็นต้นมา)

มีประเด็นเรื่อง รถยนต์ที่พี่หนุ่มถามว่า คนที่ใส่ชื่อเป็น เจ้าของรถจะผิดข้อหารับของโจรหรือไม่? พี่แก้วขอตอบ555

*การกระทำที่จะเป็นความผิดฐานรับของโจรนั้น ผู้ที่รับสิ่งของ จะต้องรู้ด้วยว่าทรัพย์นั้นได้มาจากการกระทำความผิด

*หากไม่รู้ว่า เป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด ถือว่าขาดเจตนาในทางกฎหมายอาญาจะไม่เป็นความผิด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8816/63 ตอบคือหากเขา(คนรับ)ไม่รู้ด้วยว่าทรัพย์ที่ได้มามีที่มาอย่างไร?แบบนี้ไม่ผิดครับ#ทนายแก้ว #อดไม่ไหวขอสักหน่อย#วัดพระบาทน้ำพุ

ผมเอาหลักง่ายๆ และตั้งข้อสังเกต แบบนี้ครับ…

1)โครงการที่ตั้งมีความทับซ้อนกัน ทำให้เงินที่เข้ามาในบัญชีเดียวกัน จึงจำแนกยากว่าเงินเป็นโครงการใด!!

2) แม้จะใช้ผิดวัตถุประสงค์ เช่นโครงการ อาหารกลางวัน และมีคนบริจาคเข้ามา สุดท้ายนำไปซ่อมหลังคาวัด

เอาละ หากเงินเข้า = เงินออก แบบนี้ อาจไม่ผิด เพราะไม่ได้ทุจริต  แต่ดอกเบี้ยโครงการแรก ยังฝังอยู่ในบัญชีเดียวกันหรือเปล่า??

3) ทำไมต้องถอนเงินสด ทั้งๆโอนผ่านบัญชีง่ายและสะดวก

4) การออกใบอนุโมทนาบัตร ต้องเป็นหน้าที่ของวัดเท่านั้น

5) เงินในโครงการเข้าออกกันเป็นหลักล้าน ทำไมคนมีอำนาจถอนมีคนเดียวและถึงไม่มีการทำบัญชีที่ดูแล้ว

มืออาชีพว่าที่จะตอบแบบนี้ ทั้งทนายและตัวความตอบวันนี้ งงในงงมากๆๆ😗

ขอบคุณข้อมูล: ทนายแก้ว