หลังจากที่ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สั่งให้นำตัวนายทักษิณ กลับไปเข้าเรือนจำ โดยให้จำคุก 1 ปี ซึ่งไม่นับรวม 120 วันที่พักรักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ ล่าสุด ทางด้าน ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chaiyan Chaiyaporn ระบุว่า “ทักษิณสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายมากกว่าจะยอมติดคุกจริงๆไม่ควรต้องยกย่องอะไร”
จนมุมถึงยอมติดไม่ใช่คนจริง คนกล้าอะไร เพราะถ้าไม่กลับมาติด ก็ถือว่าทิ้งลูกสาวให้เผชิญคดีความสารพัด จะเป็นพ่อใจหมาสุดๆและตัวเองก็เป็นคนทำให้ลูกโดนคดี
รวมมรสุมคดีที่ “แพทองธาร” โดนฟ้อง ตั้งแต่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี วันนี้ (29 ส.ค. 2568) ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย ชี้ชะตาความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร
นายกรัฐมนตรีสิ้นสดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีคลิปเสียงการสนทนา
ระหว่างนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี (ผู้ถูกร้อง) กับสมเด็จฮุน เขน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา
ชื่อของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย ได้เข้าไปพัวพันกับคดีความและประเด็นตรวจสอบมากมาย
[ คดีที่เกี่ยวข้องกับการถือครองทรัพย์สิน ]
1. คดีหุ้นบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟฯ
เรื่องนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567 เมื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบว่านางสาวแพทองธาร
เข้าข่ายขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ จากการถือหุ้นบริษัท อัลไพน์ กอล์ฟ แอนด์ สปอร์ต คลับ จำกัด
ในช่วงที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หาก กกต. เห็นว่ามีมูล ก็จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย และอาจนำไปสู่การพ้นจากตำแหน่งได้
2. คดีหุ้นบริษัท ประไหมสุหรี พร็อพเพอร์ตี้
ประเด็นนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งแต่วันที่ 12 กันยายน 2567
โดยมีการตรวจสอบว่าการถือหุ้นในบริษัทนี้เกินกว่า 5% ของเธอหรือไม่ ซึ่งอาจขัดต่อพระราชบัญญัติการจัดการทรัพย์สินของรัฐมนตรี
3. คดี PN Transfer (ตั๋วสัญญาใช้เงิน)
ป.ป.ช. เริ่มต้นตรวจสอบคดีนี้ในเดือนตุลาคม 2567 โดยมุ่งเน้นไปที่การโอนหุ้นมูลค่ากว่า 4.4 พันล้านบาทภายในครอบครัวชินวัตร
ซึ่งผู้ร้องเรียนมองว่าอาจเป็น “นิติกรรมอำพราง” เพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ปัจจุบันเรื่องอยู่ระหว่างการตรวจสอบและกำลังประสานงานกับกรมสรรพากรเพื่อพิจารณาร่วมกัน
[ คดีที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจและงบประมาณ ]
4. คดีโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท
ในช่วงเดือนมกราคม 2568 ทั้งฝ่ายค้านและผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท มูลค่ารวม 35,000 ล้านบาท
โดยกล่าวหาว่าเป็นการใช้งบประมาณที่ผิดประเภทและขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ขณะนี้ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องและกำลังดำเนินการตรวจสอบแล้ว
5. คดีคลิปเสียงสนทนา ฮุน เซน
นี่คืออีกหนึ่งคดีที่สร้างแรงสั่นสะเทือนทางการเมือง เมื่อมีกลุ่มนักการเมืองและนักวิชาการยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. และศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบคลิปเสียง
ที่กล่าวอ้างว่าเป็นบทสนทนาระหว่างนางสาวแพทองธารและอดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ของกัมพูชา ผู้ร้องเรียนกล่าวหาว่าการกระทำดังกล่าว
อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 120-128 ซึ่งกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ปัจจุบันทั้งสองหน่วยงานกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา
[ การถอดถอนตำแหน่งทางการเมือง ]
6. คดีถอดถอนนายกฯ (คลิปเสียงฮุนเซนและงบประมาณ)
นอกเหนือจากการตรวจสอบโดย ป.ป.ช. แล้ว ยังมีกลุ่มสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) รวม 36 คน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อขอให้ถอดถอนนางสาวแพทองธารออกจากตำแหน่ง
โดยอ้างเหตุผลว่าการกระทำของเธอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคลิปเสียงหรือการใช้งบประมาณนั้นเป็นการฝ่าฝืนจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินไปแล้ว
ขอบคุณข้อมูล: Chaiyan Chaiyaporn