สังคมต่างจับตามองจากประเด็นผู้วิเศษ-ผู้หยั่งรู้ 3 คน จนทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยเรื่องเงินและพิธีต่างๆ จนเรื่องนี้ได้ถูกโยงไปถึง อ.เอ จักพรรดิ อดีตพ่อค้าขายสบู่ออนไลน์ ที่หันมาเดินทางสายมู ได้ออกมาชี้แจงประเด็นต่างๆในรายการโหนกระแส
ซึ่งบางช่วงในรายการอาจารย์เอ ยังได้พูดถึงความสัมพันธ์กับทนายตั้ม ษิทรา ด้วยว่า ” เคยว่าจ้างทนายตั้มให้เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายจริง โดยทำสัญญา 3 ปี มีค่าใช้จ่าย เดือนละกว่า 100,000 บาท”
ด้านทนายสายหยุด ทนายความของฝั่งอาจารย์เอ ยังบอกด้วยว่า หลังจากที่ทนายตั้มเข้าเรือนจำไปแล้ว ทางอาจารย์เอก็ยังคงจ่ายเงินค่าจ้างรายเดือนนี้ต่อไปอีกนานหลายเดือน
โดยที่ไม่รู้ว่าสำนักงานทนายความได้ปิดตัวไปแล้ว ด้านอาจารย์เอได้ชี้แจงถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ตนไม่รู้จริงๆ จะเรียกว่าซื่อก็ได้
เพราะเรามีสัญญาว่าจ้าง 3 ปี เราก็ทำตามสัญญา จนกระทั่งทางด้าน คุณแตม น้องสาวของทนายตั้ม ได้ติดต่อมาที่รายการโหนกระแส
เพื่อชี้แจงในข้อมูลที่ทาง อาจารย์เอ จักรพรรดิ และทนายสายหยุด กล่าวถึงประเด็นค่าจ้าง ทนายษิทรา ระบุว่า “ไม่มีการเรียกเก็บเงินตามสัญญา นับตั้งแต่ที่ทนายตั้มเข้าเรือนจำ
โดยปกติจ่ายทุกเดือน แต่หลังจากทนายตั้มเข้าเรือนจำจนครบสัญญา ธ.ค.67 ถึง พ.ค. 68 ครบ 3 ปีพอดี แตมจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง จึงขอให้ทางคุณเอช่วยแก้ข่าวให้ด้วย”
ทำให้ทางเลขาฯ ของอ.เอ จักรพรรดิ ได้นำข้อมูลหลักฐานการโอนเงินมายืนยันว่า หลังจากที่ ทนายตั้ม เข้าเรือนจำไปแล้ว
ทางอาจารย์ยังมีการจ่ายเงินให้อยู่เป็นจำนวนเงิน 164,900 บาท เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา
ขอบคุณข้อมูล: โหนกระแส