ธ.แห่งประเทศไทย แจงปมลูกค้า เงินติดลบ หายเกลี้ยง

ทำเอาประชาชนได้รับผลกระทบไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ สำหรับ กรณีที่มีลูกค้าของหลายธนาคารพบว่า บัญชีของตัวเองนั้นเงินติดลบ บางคนเงินหายเกลี้ยงบัญชี จนต้องไปติดต่อและดำเนินการกับทางธนาคารกันวุ่นไปหมด บางคนก็กลัวจนรีบไปถอนเงินสดจากธนาคาร

ล่าสุดเมื่อวาน (12ก.ย.68) ทาง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ตรวจสอบกรณีลูกค้าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การแสดงผลยอดเงินในบัญชีติดลบ และการปลดอายัดบัญชีล่าช้าแล้ว

โดยมีการชี้แจงว่า “นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงประเด็นที่มีกระแสข่าวลูกค้าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การแสดงผลยอดเงินในบัญชีติดลบและการปลดอายัดบัญชีล่าช้า นั้น

กรณียอดเงินในบัญชีติดลบ ธปท. ได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงจากธนาคารที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่าเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ

(1) เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2568 มีการปรับปรุงข้อมูลรายการเคลื่อนไหวของเงินฝากช่วงสิ้นวันไม่ครบถ้วน ส่งผลให้บัญชีเงินฝากจำนวนหนึ่งมียอดเงินคงเหลือไม่เป็นปัจจุบัน ซึ่งธนาคารได้แก้ไขให้ถูกต้องเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. 2568 ที่ผ่านมา

โดย ธปท. ได้สั่งการให้ธนาคารดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทุกราย รวมถึงได้เข้าตรวจสอบและติดตามให้ธนาคารมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้อีกในอนาคต ตลอดจนกำชับให้ทุกธนาคารมีมาตรการเชิงป้องกันเช่นกัน

(2) เกิดจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งธนาคารให้อายัดเงินในบัญชีต้องสงสัย แต่เงินในบัญชีเหลือน้อยกว่าจำนวนเงินที่ตำรวจแจ้งให้อายัด ระบบจึงแสดงยอดเงินในบัญชีติดลบ ซึ่งแต่ละธนาคารมีแนวทางการแสดงข้อมูลที่แตกต่างกัน โดย ธปท. ได้สั่งการให้ธนาคารเร่งสร้างความเข้าใจกับลูกค้าให้ชัดเจนแล้ว

สำหรับประเด็นการอายัดบัญชีต้องสงสัยเพื่อติดตามเงินกลับมาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด ซึ่งอาจจะกระทบการทำธุรกรรมของประชาชนส่วนหนึ่ง นั้น ธปท. ธนาคารพาณิชย์ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องรับทราบปัญหา

และอยู่ระหว่างเร่งปรับปรุงกระบวนการอายัดและการปลดอายัด ให้สามารถจัดการกับมิจฉาชีพและดูแลผู้เสียหายได้อย่างมีประสิทธิผล โดยไม่กระทบต่อผู้ใช้บริการปกติ รวมทั้งมีความรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะการปลดอายัดบัญชีกรณีผู้บริสุทธิ์

ทั้งนี้ หากประชาชนพบปัญหาในการใช้บริการทางการเงินและไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงทีจากสถาบันการเงิน สามารถติดต่อศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ธปท. ที่หมายเลข 1213 โดย ธปท. จะเร่งให้สถาบันการเงินตรวจสอบและแก้ปัญหาอย่างเร็วที่สุด”

เอาเป็นว่าก็ขอให้ทุกคนที่ได้รับผลกระทบได้เงินคืนกันถ้วนหน้าโดยเร็วนะคะ

ขอบคุณข้อมูล : ธนาคารแห่งประเทศไทย – Bank of Thailand