จากประเด็นผู้วิเศษ-ผู้หยั่งรู้ 3 คน จนทำให้สังคมตั้งข้อสงสัยเรื่องเงินและพิธีต่างๆ จนเรื่องนี้ได้ถูกโยงไปถึง อ.เอ จักพรรดิ อดีตพ่อค้าขายสบู่ออนไลน์ ที่หันมาเดินทางสายมู ได้ออกมาชี้แจงประเด็นต่างๆในรายการโหนกระแส ซึ่งช่วงท้ายในรายการ หนุ่ม กรรชัย ยังได้ถามอาจารย์เอว่า
วันนี้เป็นประเด็นแล้ว คุณคิดจะทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ มั้ย ในการผูกดวง 9 บาท เอาหน้ากากแตะหน้าล้างดวง หรืออีกเยอะแยะมากมาย?
เอ : ขออนุญาตแจ้งว่าผมประกาศหยุดทำพิธีตั้งแต่ก.ค.แล้วครับ ที่ทำทุกวันนี้ทำให้ครบตามที่แจ้งกับทุกคนไว้
หมายความว่าไง?
เอ : ไม่มีการฝากดวงตั้งแต่ก.ค.
ถามง่ายๆ เลย คุณจะเลิกเป็นอาจารย์เอ จักรพรรดิมั้ย?
เอ : ผมเลิกได้ เลิกได้เลยครับ ไม่ทำพิธีได้เลย แล้วสิ่งที่ตั้งใจคือตั้งแต่ผมออกมาทำเบาหวาน ผมแจ้งลูกศิษย์ไว้แล้วว่าผมอยากสร้างอะไร
ต่อไปนี้ผมจะมาขายของแล้ว ผมพูดตั้งแต่ 2-3 เดือนที่ผ่านมาแล้ว ฉะนั้นเพจเอ จักรพรรดิ ที่มีผู้ติดตามอยู่ 2.5 ล้าน ผมจะขายของครับ
อยากพูดอะไรกับประชาชนคนไทยมั้ย?
เอ : ขอบอกกับลูกศิษย์ อย่างแรกเลย ขอบคุณศิษย์ทุกคน คนที่รักและศรัทธา ขอบคุณมากๆ (ยกมือไหว้) ที่อยู่เคียงข้าง ขอบคุณที่รักผู้ชายตัวเล็กๆ คนนี้
และสนับสนุนมาโดยตลอด ตัวอาจารย์ยังอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ไปไหน แม้ว่าไม่ทำพิธีใดๆ แต่จะอยู่ตรงนี้ ยืนอยู่ตรงที่ที่จักรพรรดิเทวาลัย สองกลุ่มประชาชนที่ไม่ได้มีความเชื่อเรื่องพวกนี้
ผมรู้ดีว่า เรื่องความเชื่อเป็นสิ่งที่เปราะบาง เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มครับ แต่สิ่งหนึ่งที่ยังมั่นใจคือในบางครั้ง ใครบางคน เราไม่รู้ว่าเขาเจออะไรมาบ้างในชีวิต
และเขาอาจไม่ได้มีพลังกาย พลังใจ และความหวังในชีวิต การมองหาอะไรบางอย่างที่สามารถยึดเหนี่ยวจิตใจ หรือทำให้มีพลังกาย พลังใจขับเคลื่อนขึ้นมาได้
ผมว่าบางครั้งสายมูก็สามารถทำแบบนั้นได้ คือขับเคลื่อนได้ และผมเชื่อว่ามนุษย์ทุกคนวิ่งหาความสุข สายมูก็อาจเป็นความสุขของใครบางคน
บางคนอาจมีความสุขกับการเตะบอล หรือปาร์ตี้ก็ได้ แต่ความสุขของใครอีกคนคือสายมูก็ได้ ดังนั้นผมมองว่าไม่มีใครชอบที่เห็นคนอื่นมาด้อยค่าในสิ่งที่สร้างความสุขให้กับตัวเรา
ผมเข้าใจได้ว่าเรื่องความเชื่อเข้าใจได้ยาก และไม่ใช่ทุกคนที่เชื่อ แต่อย่างน้อยที่สุด ผมอยากให้อยู่บนความเข้าใจและให้เกียรติในความเชื่อของแต่ละบุคคล
แต่ท้ายสุดแล้ว ตัวผมเอง ผมรู้ว่ามีหลายอย่างที่ตัวผมต้องมีการปรับเปลี่ยน พัฒนา แก้ไขและจากวินาทีนี้เป็นต้นไป ผมพร้อมแก้ไขเช่นเดียวกัน ความเป็นอาจารย์หรือใดๆต่างๆ
ที่สามารถทำให้สังคมมองมาแล้วไม่ตะขิดตะขวงใจ ผมพร้อมแก้ไขทั้งหมด และหากมีสิ่งใดก็ตาม ที่ผมทำผิดพลาดประการใด
กราบขออภัยทุกครั้งครับ (ยกมือไหว้) และกราบขอบพระคุณทุกเพจ ทุกสำนักข่าว ที่ทำให้มีเรื่องราวเหล่านี้และทำให้ผมได้มีโอกาสมานั่งชี้แจง จากนี้น่ารักกับผมหน่อยนะครับ (หัวเราะ)
ขอบคุณข้อมูล: โหนกระแส