ทางเพจประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ ได้ออกแถลงการณ์ล่าสุด ระบุว่า”กรณีประกาศกระทรวงยุติธรรม เรื่อง กำหนดอาณาเขตเรือนจำกลางคลองเปรม”ตามประกาศกระทรวงยุติธรรม เรื่อง กำหนดอาณาเขตเรือนจำกลางคลองเปรม ซึ่งพื้นที่เดิม มีเนื้อที่ 118 ไร่ 1 ตารางวา เป็นเนื้อที่ 124 ไร่ 1 งาน 1 ตารางวา
โดยมีอาณาเขตเพิ่มจำนวน 6 ไร่ 1 งาน นั้นกรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่า อาณาเขตของเรือนจำกลางคลองเปรมที่เพิ่มนั้น เดิมเป็นอาณาเขตพื้นที่เดิมของเรือนจำกลางคลองเปรม
แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ผ่านมาจึงได้กำหนดอาณาเขตดังกล่าวให้อยู่ในการครอบครองดูแลของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
ตามนัยหนังสือกรมราชทัณฑ์ ที่ ยธ 0702/15585 ลงวันที่ 23 มิถุนายน 2565 เรื่องการกำหนดอาณาเขตเรือนจำกลาง คลองเปรมและทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ (ใหม่)
เพื่อให้สามารถจัดการสถานการณ์ขณะนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ปัจจุบันเรือนจำกลางคลองเปรมมีผู้ต้องขังจำนวนมาก มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ ประกอบกับมีผู้ต้องขังพิการ
จำนวน 42 คน ผู้ต้องขังที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 385 คน ผู้ต้องขังที่อยู่ในภาวะพึ่งพิงจำนวน 22 คน อีกทั้งยังเป็นเรือนจำรับย้ายผู้ต้องขังที่มีพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจ
จากเรือนจำ/ทัณฑสถานอื่น เรือนจำกลางคลองเปรมจึงมีแนวโน้มที่จำนวนผู้ต้องขังเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้สภาพความเป็นอยู่เกิดความแออัด
ประกอบกับทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์หมดความจำเป็นในการใช้พื้นที่ดังกล่าวในการรักษาผู้ป่วยจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แล้ว
ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทั้งการควบคุมและการพัฒนาพฤตินิสัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ กรมราชทัณฑ์ จึงเสนอกระทรวงยุติธธรรมพิจารณาปรับเพิ่มอาณาเขตของเรือนจำกลางคลองเปรมใหม่
โดยคืนพื้นที่ที่ไปอยู่ในการครอบครองดูแลของทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ให้กลับมาอยู่ในการครอบครองดูแลของเรือนจำกลางคลองเปรมตามเดิม
โดยประกาศกระทรวงยุติธรรม เรื่องกำหนดอาณาเขตของเรือนจำแต่ละแห่ง มีการดำเนินการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของการบริหารจัดการเรือนจำมาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งในปีงบประมาณ 2567 มีการประกาศกำหนดอาณาเขตของเรือนจำ จำนวน 16 แห่ง เช่น เรือนจำชั่วคราวดอยยฮาง สังกัดเรือนจำกลางเชียงราย เรือนจำกลางเพชรบุรี
และเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เป็นต้น ในปีงบประมาณ 2568 ถึงปัจจุบัน มีการประกาศกำศกำหนดอาณาเขตของเรือนจำ จำนวน 7 แห่ง แห่ง เช่น เรือนจำชั่วคราวเขาสมอแคลง
สังกัดเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก เรือนจำพิเศษพัทยา และเรือนจำกลางคลองเปรม เป็นต้น กรมราชทัณฑ์ขอเรียนว่า การกำหนดอาณาเขตเรือนจำกลางคลองเปรมใหม่
เป็นการคืนพื้นที่ให้กลับมาอยู่ภายใต้การครอบครองดูแลของเรือนจำกลางคลองเปรมตามเดิม เพื่อประโยชน์ในการควบผู้ต้องราชทัณฑ์ที่มีจำนวนมาก
ให้เป็นไปตามผลการจำแนกลักษณะและและให้การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องขณะอยู่ในเรือนจำให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างเหมาะสมต่อไป
ขอบคุณข้อมูล: ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์