บันเทิง
แม่ มิสแกรนด์ชลบุรี โพสต์
กลายเป็นประเด็นที่แฟนนางงามต่างออกมาพูดถึงเรื่องนี้กันสนั่น หลังจากที่นางสาว กฤษฎาภรณ์ นาใคร มิสแกรนด์ชลบุรี 2023 ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ทำให้ต่อมาทางคุณแม่ของเธอได้ออกมาโพสต์ข้อความว่า “สงสารลูกเรา อยู่ที่คนเขาไม่เลือก แต่ได้มันเลยจบแบบเจ็บๆ ถ้าเลือกได้แม่อยากจะรวยจะซื้อกระเป๋าแพงๆเสื้อผ้าดีๆ ให้ลูกใส่ เพราะเราจน
แม่ก็ขายของทุกวันไม่มีวันหยุด ลูกก็ยากหาเงินที่รายได้ดีๆ มาช่วยแม่ (ลูกแม่ค้า) ทุกคนเดินดินเหมือนกัน มีสูงมีต่ำ กรุณามีที่ให้น้องได้ยืนบ้าง”จนกระทั่งต่อมาเธอได้ออกมาโพสต์ชี้แจงกับเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นว่า ” #น้องขอออกมาพูดบ้าง ในสิ่งที่น้องอยากบอกทุกคน
กับประเด็นต่างๆ ที่ทาง PD ออกมาแถลงการณ์ปลดหนู เรื่องมีดังนี้ค่ะ
1.วันที่29 พฤศจิกายน2565 น้องบินถึงดอนเมือง 21:20 น. นั่งรอแท็กซี่กลับบ้านที่นนทบุรี สถานที่ที่ต้องไปคืนชุดอยู่ที่ธรรมศาสตร์รังสิต
ซึ่งมันไกลมากและมันดึกแล้ว น้องจึงนำชุดกลับบ้านมาก่อนแล้วค่อยทำการนำส่งคืนในวันที่ 2 ธันวาคมและน้องยืนยันว่าพีดีไม่ได้สั่งให้น้องส่งชุดคืนในวันที่ 30 พฤศจิกายน2565
2.วันที่ 1 ธันวาคม 2565 น้องไม่ได้ไปตามนัดคลินิกจริง ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่น้องขายของช่วยแม่ทั้งวัน จนน้องเองลืมนัด น้องน้อมรับผิดข้อนี้ค่ะและน้องเองได้ทำการทักไปขอโทษทางคลินิคด้วยตัวของน้องเองแล้วค่ะ
3.วันที่21 ธันวาคม2565 ไปพบสปอนเซอร์
น้องถามพีดีแล้วว่าต้องเตรียมอะไรไปบ้าง และตัวน้องยังบอกไปอีกนะคะว่าน้องไม่มีชุดสวยใส่ พีดีบอกว่าเอาเท่าที่มี (หนูมีหลักฐาน)
แล้วน้องก็เตรียมชุดไปเท่าที่มี ซึ่งได้รับบรีฟจากพีดีเรื่องชุด 1-2 ชั่วโมงก่อนเวลานัด น้องเตรียมไป3ชุด สปอนบอกเอาง่ายๆ
เพราะถ่ายเจาะแค่เพชร และสปอนเลือกชุดสูทสีขาวเอง ในเพจสปอนก็เป็นหลักฐานได้ว่าสปอนเค้าถ่ายเจาะแค่หน้ากับเครื่องเพชรเท่านั้นทั้งนี้ทางสปอนก็ยังได้สอบถามว่าทำไมพีดีไม่มาด้วย
4.วันที่ 26ธันวาคม2565 พบสปอนเซอร์คลินิกความงาม เรื่องที่บอกว่าน้องไม่แต่งหน้าไป ที่จริงน้องแต่งไปแต่แต่งแบบเบาๆ
เพราะตอนนั้นน้องคิดว่าเราไปทำหน้าจะได้ไปแบบคลีนๆ เลยไม่ต้องลำบากคุณหมอ แต่พอไปถึงพี่ๆเค้าแจ้งว่าจะมีการถ่ายรีวิว
น้องก็เลยบอกว่างั้นมารอบหน้าก็ได้ค่ะ จะได้เตรียมตัวแต่งหน้าใส่ชุดแบบจัดเต็มมา อันนี้น้องผิดที่คิดน้อยไปหน่อยค่ะ
5.วันที่27 ธันวาคม 2565 งานไฟนอลชุมพร-ตรัง ประเด็นที่น้องไม่ได้ไปนั่งกับพีดี เพราะตอนแรกน้องเดินเข้างานมากับพี่เลี้ยง
น้องมองหาพีดีไม่เห็นก็เลยไปหาที่นั่ง พอดีเห็นเพื่อนนางงามท่านนึง บอกนั่งตรงนี้ได้ เพราะเป็นที่นั่งของทีมเราเอง หนูก็เลยนั่ง แล้วเราก็คุยกันสนุกสนาน
แลกเปลี่ยนความรู้กันและตรงนั้นมีนางงามหลายท่านน้องก็คุยกันว่าเข้ากอง เรามาอยู่กลุ่มเดียวกันนะ จากนั้นพี่เลี้ยงน้องก็ขอตัวไปชาร์จแบตมือถือที่ห้องแต่งหน้าก่อน
น้องเลยนั่งรอตรงนี้คุยกับเพื่อนๆต่อ สักพักพี่Producerก็มาตามให้ไปนั่งกับพีดี น้องเลยบอกไปว่าน้องขอนั่งตรงนี้คุยกับเพื่อนๆ
และรอพี่เลี้ยงก่อนเดี๋ยวน้องตามไป พอพี่เลี้ยงกลับมาจึงได้ขอตัวไปนั่งแถวๆ พีดีนั่งจนจบงาน
6.รีวิวสปอนเซอร์ น้องทำส่งให้ตลอดทุกสปอน คลิปไหนทำไม่ดี น้องก็พยายามทำใหม่ให้มันดีกว่าเดิมเท่าที่น้องจะทำเองได้
ซึ่งน้องยอมรับว่าน้องทำไม่เป็นจริงๆ แต่น้องก็ให้พี่เลี้ยงช่วยสอนช่วยตัดคลิป จนมีรีวิวต่างๆ ที่น้องแชร์ในเพจและช่องทางโซเชี่ยลของน้อง
ซึ่งน้องก็พยายามฝึกเรื่อยๆ ค่ะและทางกองก็ไม่ได้มาซัพพอต ช่วยคิดคอนเท้น ช่วยตัดคลิปเลย มีแต่หนูและทีมพี่เลี้ยงทำกันเองมาตลอด
7.ตั้งแต่จบการประกวดมา น้องยังไม่ได้รับเงินรางวัลเลย ซึ่งก็ไม่ได้ติดใจคิดว่าเงินส่วนนี้ทางผู้ใหญ่คงจะนำมาพัฒนาตัวเรา แต่เห็นพีดีบอกจะแบ่งจ่ายส่วนหนึ่ง
และเอาเงินไว้มาซัพพอร์ตหนู แต่หนูไม่เห็นการซัพพอร์ตจากกองเลย ไปไหนมาไหน หนู ซัพพอร์ตตัวเองหมด มีแต่สั่งให้ทำสั่งให้เปลี่ยน
สั่งให้ปรับ ซึ่ง หนูก็ทำตาม โดยปกติหลังจากมงควรมีการพาทีมไปขอบคุณสปอนเซอร์แต่นี้ไม่มีเลยค่ะ
8.ทางทีมน้องและกองมีการพูดคุยกันเรื่องการสละตำแหน่งในวันที่ 8 มกราคม 2566 (ถ้าน้องสู้ต่อแล้วน้องไม่มีกระแสหรือดีขึ้นน้องจะโดนเปลี่ยนจากสละตำแหน่งเป็นปลดตำแหน่ง)
แต่น้องและทีมก็ตัดสินใจเลือกที่จะยกมือไหว้ขอโอกาสสู้ต่อจนสุดความสามารถ จะขอแก้ตัวในสิ่งที่เคยทำไว้ยังไม่ดีพอ
จะพยายามหาแสงให้ตัวเองตามที่กองต้องการ ซึ่งน้องมั่นใจว่าน้องปรับปรุงมาโดยตลอดระยะเวลาที่พีดีไห้พิสูจน์ตัวเอง ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
มีแสงมากขึ้น ซึ่งวัดจากเพจนางงามต่างๆ เริ่มลงข่าวน้องมากขึ้น และเริ่มเป็นที่รู้จักในนามน้องนาใคร
9.ตอนไปถ่ายพอตเทรตที่ขอนแก่นมีทางเพจนางงามทักมาให้ไลฟ์ในเพจพูดคุยพบปะเเฟนคลับได้ พี่เลี้ยงและน้องจึงได้ทำการไลฟ์สดเป็นการเคลื่อนไหวเป็นน้ำจิ้มให้แฟนคลับเห็น
ว่าเราไม่ได้หายไปไหนนะเราถ่ายพรอทเทรตชุดว่ายน้ำกันอยู่ และในไลฟ์สดก็คุยกันสนุกสนานแบบบ้านๆ ม่วนๆ จอยๆกับพี่ๆแฟนนางงาม
ทุกคนก็สอบถามคุยเล่นกันไป มีช็อต1 ที่ มีแฟนนางงามชมน้องว่าน้องดีดเหมือนกะเทย น้องเลยตอบไปว่า ที่น้องดีดแบบนี้เพราะน้องมีพี่เลี้ยงเป็นกะเทย
แล้วน้องก็หันไปแล้วตบสะโพกไป ไห้ดูจอยๆสนุกๆไม่ทันคิดว่าภาพลักษณ์จะดูไม่ดี
จนพีดีได้ตำหนิมาเลยว่าทำไมทำแบบนั้นเสียภาพลักษณ์มาก ไม่เหมาะสมกับมิสแกรนด์ชลบุรี ไม่ใช่เทสชลบุรี
10. น้องขายความบ้านๆ สาวบ้านนา แม่ขายส้มตำ และเป็นแบบนี้มาสู้ในการประกวดจังหวัดจนสามารถคว้ามงกุฎมาได้ แต่พอหลังมง
บอกต้องเปลี่ยนเป็นแพง หรู เทสชลให้เหมือนคนมงปีก่อนๆให้ได้ น้องก็พยายามทำเท่าที่น้องจะทำได้แต่น้องไม่มีชุดสวยสวยกระเป๋าหรูๆให้สะพาย
11.หลังจากที่พี่เลี้ยงและพีดีพูดคุยกันเมื่อวันที่ 8 มกราคม 2566 ว่าจะให้น้องสละตำแหน่ง จะไม่ปลด แต่ต้องมาคุยกันว่าจะสลับตำแหน่งเรื่องอะไร
เพราะพี่ดีไม่เอาน้องแล้วเพราะน้องทำให้เสียภาพลักษณ์ขององค์กร และพีดีบอกทางทีมว่าเดี๋ยวจะมีการปรึกษาทางกองก่อน
และจะทักมาประชุมผ่านกลุ่มไลน์ก่อน ค่อยสละตำแหน่ง แต่ไม่มีการตอบกลับมาใดๆ จนกระทั้งมีเรื่องปลดเกิดขึ้นคะ
12. วันที่ 25 มกราคม 2566น้องมีนัดกับสปอนเซอร์คลินิกทันตกรรม เพื่อถ่ายรีวิวคลินิก ซึ่งน้องและทีมกำลังเดินทางไปที่คลินิก แต่พีดีสั่งห้ามไม่ให้ไป
ให้เบรกไว้ก่อน ทางทีมจึงต้องกลับมา ซึ่งทำให้ต้องยกเลิกนัดกับทางคลีนิคไป #สุดท้ายนี้ ทางตัวน้องและทีมเคารพการตัดสินใจของกองประกวด
และออกมาชี้แจงในประเด็นต่างๆอย่างตรงไปตรงมา หวังว่าแฟนนางงามจะเข้าใจและ น้องขอยืนยันตรงนี้ว่าน้องรักการเป็นนางงาม รักวงการนางงาม
ที่น้องพยายามมาอย่างต่อเนื่องกว่าจะมง น้องจะไม่หยุดการหาโอกาส ถึงที่นี่จะไม่ใช่ที่ของน้อง แต่สักวันน้องเชื่อว่า มันจะมีที่ให้น้องยืนอย่างสง่างาม
หนูขอบคุณทุกกำลังใจจากแฟนนางงาม ขอบคุณบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ที่ทำให้น้องแข็งแกร่งขึ้น ขอบคุณจริงๆนะคะ ขอบคุณจากใจ#น้อง กฤษฎาภรณ์ นาใคร#น้องนาใคร”
ขอบคุณข้อมูล:Kritsadaporn Nakrai
