เป็นเพื่อนซี้ที่สนิทกันมากๆเลยค่า สำหรับสาว เอมี่ กลิ่นประทุม และหนุ่ม พอร์ช ศรัณย์ ที่ล่าสุด ทั้งสองได้มาเป็นแขกรับเชิญในรายการคุยแซ่บ Show พร้อมเผยจุดเริ่มต้นที่จากไม่ถูกชะตากัน จนได้มาเป็นเพื่อนรักกันจนถึงปัจจุบัน พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกือบจะตัดเพื่อนกันด้วยว่า
สนิทกันกี่ปีแล้ว ?
พอร์ช : เป็นสิบปีแล้ว
เริ่มต้นรู้จักกันได้ยังไง ?
เอมี่ : จริงๆ เจอพอร์ชสมัยที่อยู่ช่อง 7 ด้วยกัน แต่เราไม่เคยได้ร่วมงานกัน ช่อง 7 เราไม่ได้คุยกัน เจอหน้าครั้งแรกไม่ชอบด้วย (หัวเราะ)
เพราะเขาจะนิ่งๆหยิ่งๆ หน่อย แต่แค่นางไม่เห็นเราเฉยๆ แต่พอเราไปเจออีกครั้ง นางก็สวัสดีโน่นนั่นนี่ ไม่เชิงเชิ่ดแต่ไม่สนใจ
พอร์ช : ประเด็นคือเราไม่เคยร่วมงานกันไง บางทีเราไม่ทักใครก่อน เราเป็นคนธรรมดา เขาเป็นนางเอกดัง จะคุยกับเรามั้ย
เอมี่ : แต่ที่มาสนิทมาเจอกันก็เพราะพี่เป็กแหละ พอร์ชก็น้องพี่เป็ก
กินน้ำละลายพฤติกรรมก็สนิทกัน ?
เอมี่ : ใช่ เจอบ้านพี่เป็ก
ก่อนซี้ ได้ยินชื่อเสียงผู้ชายคนนี้ยังไง ?
เอมี่ : เขาเป็นรุ่นน้องเราด้วย เราได้ยินเรื่องเจ้าชู้ แต่เราเป็นรุ่นพี่ ก็เลยไม่ได้รู้สึกอะไร แต่เราก็ได้ยินกิตติศัพท์มาเยอะ
พอเจอก็ตามนั้นแหละ (หัวเราะ) นางก็เป็นแนวเฮฮาๆ ซะมากกวา พอร์ชเป็นคนอารมณ์ดี เล่นมุก
เวลากินอะไรด้วยกัน เราก็ชอบเล่นเกมกัน ต้องแบ่งทีม แล้วต้องอยู่ด้วยกันและต้องชนะ
มี่ชอบแอบซีไปดื่มบ้านพอร์ช ?
พอร์ช : เรียกว่าเป็นทางผ่านแล้วกัน
เอมี่ : บอกเขา แต่กลับช้า
กลับช้าหรือกลับเช้า ?
เอมี่ : รวมๆ กัน คือเมื่อก่อนเพื่อนสนิทมี่อีกคนเขาจะอยู่หมู่บ้านเดียวกันพอร์ช จะมีช่างผมที่สนิทกันด้วย ละแวกบ้านเราอยู่ใกล้กันหมด
จะกลับจากไหนก็เป็นทางผ่าน จริงๆ เราก็แวะได้ ทีนี้เวลาแวะมันก็ล่วงเลยเวลา แต่พี่ซีก็รู้แหละ
เขารู้แต่อาจรู้ไม่หมด (หัวเราะ) รู้ว่าไม่อยู่บ้านเพื่อนคนนี้ก็อยู่บ้านพอร์ช แค่นี้ เพราะอยู่ใกล้สุด
มีหึงหวงมั้ย ?
เอมี่ : กับพอร์ชไม่มี พี่ซีก็สนิทกับพอร์ชเหมือนกัน น้องรักพี่ซี
บอกพี่ซีไม่ได้เหรอ ?
พอร์ช : ไม่ได้หึงหวง พี่ซีเขาก็ไม่อยากให้เมียกินเหล้าเยอะ กลับบ้านดึกจนเกินไป อีกวันต้องมีงาน
เอมี่ : นั่นสมัยก่อน สมัยนี้ก็ดื่มแหละ แต่ไม่ได้ดื่มเยอะเหมือนเมื่อก่อน
บ็อกเซอร์ติดไปกับเอมี่คืออะไร ?
เอมี่ : บ็อกเซอร์พอร์ชมันเหมือนกางเกงวอร์มเรา มันยาว บางทีเรากลับจากงาน
เราใส่ชุดอะไรก็ไม่สะดวกในการนั่ง ก็ใส่บ็อกเซอร์นางกับเสื้อยืด เราก็กลับบ้านแบบนั้น
พอร์ช : อีกวันพี่ซีเอาไปใส่ (หัวเราะ)
เอมี่ : พอร์ชก็โทร. มาบอกพี่ซีๆ นั่นบ็อกเซอร์ผม อ้าว กูจะไปรู้เหรอ (หัวเราะ) เขาก็ไม่รู้ว่าของใคร บางทีของเขตอยู่ที่บ้านก็มี
นางก็รู้ว่าเป็นของใครสักคน นางก็บอกว่างั้นยืมนะ แล้วนางก็ไม่คืน ก็สนิทกันแบบนี้ บางทีมีเสื้อแจ็คเก็ตใส่ไปงาน ก็ยืมเสื้อน้องมาเลยแล้วกัน
พอร์ชสนิทกับซีได้ไง ?
พอร์ช : จริงๆ ผมก็บาลานซ์ทั้งคู่ กับพี่ซีผมจะเล่นเกมด้วย มีช่วงก่อนเล่นเกมกันเยอะ ถ้าจะปาร์ตี้ต้องมาหาเอมี่ ผัวติดเกม เมียติดเหล้า
เอมี่ : (หัวเราะถูกใจ)
พอร์ช : เราต้องบาลานซ์เพื่อนให้ดี
เอมี่ : เขาจะชอบร้องเพลงด้วยกัน พอร์ชร้องเพลงเก่ง พี่ซีชอบปรึกษา ปรึกษาไปๆ มาๆ มี่ขึ้นนอนก่อน
ลงมายังปรึกษาเรื่องเพลงกันอยู่เลย เขาก็ได้ทั้งสองทาง ทั้งมี่ทั้งพี่ซี พี่ซีก็ชอบร้องเพลงกับพอร์ช
สาว ๆ ทุกคนของพอร์ช เอมี่เห็นมาตลอด ?
เอมี่ : ก็เห็นบ้าง แต่ตามสไตล์ เรารู้จักเขามานานแล้ว ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น เกเร บางทีมาอาจเป็นแนวเพื่อนก็ได้ เราก็ไม่เคยถาม
พอร์ชมีปัญหาไม่ค่อยปรึกษาคนอื่น แต่ปรึกษาเอมี่ ?
พอร์ช : กับมี่ก็ไม่ค่อยได้ปรึกษา ถ้าปรึกษาเรื่องซีเรียส ส่วนใหญ่จะปรึกษาพี่ซี เพราะพี่ซีเขาชอบคุยเรื่องซีเรียสอยู่แล้ว
เขามีสติ กับมี่เวลาไปไหนด้วยกันเราไม่เอาเรื่องเครียดมาปน เราสนุกอย่างเดียว
เอมี่ : ถ้าพอร์ชปรึกษาเรื่องการงาน ทำงานก็จะคุยกับพี่ซี จะได้สาระมากกว่า ถ้าเขามีปัญหาก็ดูออกว่ามีอะไรในใจ เราก็ไม่ถาม เขาก็ไม่พูด
ถ้าเขาจะพูดเขาจะพูดเอง ถ้าถามจะยิ่งไม่พูดใหญ่เลย ถ้าเขาอยากพูดเขาจะมาเอง เขาต้องสบายใจกับเรา เวลาเขามีอะไร ก็มีบ้างที่มาคุยด้วย แต่น้อย
พอร์ช : ฟีลพี่ซีอยู่บ้านมั้ย พรุ่งนี้จะไปหาที่บ้าน แต่ก็ไม่ได้คุยอะไร บางทีไปนั่งเฉยๆ
ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจจะหายไปเลย ?
เอมี่ : ก็ไม่ได้หายไป แต่ถ้าเรานั่งกับกลุ่มเพื่อนแล้วเขาต้องกลับก่อน หรือเขามีเรื่องเครียด เขาจะเลือกที่จะกลับเลย ไม่บอกใครทั้งนั้น
เราก็อ้าว อีพอร์ชอยู่ไหน แต่เราก็ไม่ตาม นางกลัวถ้าบอกคนอื่นเดี๋ยวคนอื่นรั้งนาง เราก็บอกว่าบอกนิดนึง เพราะบางทีหาว่าอยู่ไหน
แค่บอกเฉยๆ ไม่รั้ง แต่หลังๆเริ่มบอก เราก็ไม่บอกใคร คนเราถ้าอยากกลับก็กลับ
ไม่สบายใจที่จะอยู่ เหนื่อย หรือมีธุระ ก็กลับ แต่รู้ว่ามีปัญหาอะไรสักอย่าง ก็กลับเถอะรั้งไว้ก็ไม่สนุกแน่
เรื่องน้องโฮมส์ ทำไมพอร์ชเลือกบอกเอมี่คนแรก ?
พอร์ช : เวลาคุยกับมี่เราไม่อยากให้มีเรื่องเครียด เราคุยแต่เรื่องดีๆ เราแค่รู้สึกว่าพอเรามีลูกก็เป็นเรื่องที่ดี
แค่อยากบอกเพื่อนแค่นั้นเอง แค่อยู่ดี ๆ ก็วิดีโอคอลบอกเลย มันนั่งกินเหล้าอยู่
เอมี่ : วิดีโอคอลแล้วบอกว่า มีอะไรอยากให้ดู แล้วแพนกล้อง เราถามว่าลูกใครวะ เขาบอกลูกกู (หัวเราะ)
เราก็จริงเปล่าเนี่ย เป็นช่วงนางไม่ได้บอกใคร มี่ก็โอเค แม้แต่พี่ซีก็ไม่ได้บอก เรารู้สึกว่าเป็นโมเมนต์ที่ควรบอกเอง
เก็บความลับเก่งมาก ?
เอมี่ : มี่แค่ไม่พูดเฉยๆ
เป็นตราบาป พอรู้ความลับเพื่อนไม่สามารถเล่าใครได้ ?
เอมี่ : ก็อยากพูด เหมือนเราอยากจะบอก บางทีก็อยากไปหา แล้วช่วงหลัง ๆ พี่ซีก็อยู่บ้านตลอด เราก็คิดว่าหรือเราจะบอกเลย
แต่ไม่รู้ควรจะบอกหรือไม่บอก สุดท้ายนางก็บอกพี่ซีเอง อยากให้พี่ซีได้โมเมนต์ดีใจกับพอร์ช
เขาอึดอัด อยากพูด เห่อหลาน พอพอร์ชบอกซีก็ไม่เหมือนมี่บอก ก็อยากให้เขาได้โมเมนต์นั้น
อบอกว่ามีลูก พี่ซีทำยังไง ?
พอร์ช : พี่ซีไม่ตกใจอะไร เขาบอกเหมือนกูก็รู้อยู่แล้วแหละ แต่เมียกูไม่ได้บอกกูนะเว้ย ไม่รู้รู้จากไหน แต่ผมไม่ได้ปิดเรื่องนี้ แค่ที่มาบอกมี่เพราะอยากบอกเพื่อนแค่นั้นเอง
เอมี่บอกซีเรื่องหลานไม่ได้เหรอ ?
เอมี่ : เราไม่อยากขโมยโมเมนต์ไปที่นางจะมีการบอกกัน อยากให้เขารู้จากพอร์ช การที่มี่มาบอกเหมือนเรามาเมาท์เรื่องเพื่อนให้ฟัง พอร์ชก็เป็นน้องซีด้วย ก็อยากให้บอกกันเอง
ช่วงห่างกันไปงอนๆ อะไรกัน ?
พอร์ช : ไม่ได้งอนอะไรมากหรอก เราไม่ค่อยได้ดื่มด้วย เราคิดกับตัวเองแทนว่าที่เพื่อนไม่ได้มาเจอเรา เพราะเราไม่ได้ไปดื่มเหมือนเมื่อก่อน เราไม่ได้ปาร์ตี้เพื่อนจะมาเจอเราทำไม
คิดว่าเขางอนมั้ย ?
เอมี่ : งอน ตอนยังไม่ไปเยี่ยมหลาน นางตามว่ามาเยี่ยมสิ เราก็บอกว่าโอเค เดี๋ยวไป แต่ช่วงนั้นเราเป็นโควิด แล้วเป็นลองโควิด
เราไม่รู้ว่าเราหายดีหรือยัง ก็ยังไม่ไปซะที นางเป็นคนไม่เคยงอนจริงจัง ไม่เคยโกรธเลยนะ
แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ไม่คุยกับมี่เลย เราก็ตายแล้ว มันโกรธจริงๆ จนมันหายโกรธ เอาหลานมาหาที่บ้านเองเลย
พอร์ช : แค่อยากให้เจอ เพราะบอกเขาคนแรก แค่นั้นเอง
เอมี่ : เขาบอกว่านี่คนแรกที่บอก แล้วยังจะไม่มาอีก เป็นเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิต แล้วทำไมถึงไม่สนใจมัน ก็รู้สึกผิดมาก ไม่มีอะไรจะพูด จุก ๆ
งอนเองหายเอง ?
พอร์ช : ก็พยายามเข้าใจ ช่วงนั้นเราหลายอย่าง เราเลี้ยงลูกด้วยก็เครียด ลูก 6-7 เดือน ตอนบอกมี่ลูก 4-5 เดือน
ขอบคุณข้อมูล: Orange Mama