เพิ่งรู้ เต๋อ ฉันทวิชช์ – ใหม่ ดาวิกา หวิดเลิกกันถึง 2 ครั้ง

หวานฉ่ำมากขึ้นทุกวันเลยค่ะ สำหรับคู่ของ พระเอกหนุ่มหล่อสุดเซอร์ “เต๋อ – ฉันทวิชช์ ธนะเสวี” กับนางเอกซุปตาร์แถวหน้าของเมืองไทย “ใหม่ – ดาวิกา โฮร์เน่” ที่มักจะมีโมเมนต์คลั่งรักออกมาฝากแฟนคลับตลอด แถมแฟนคลับยังลุ้นหนักมากว่าเมื่อไหร่จะมีซีนคุกเข่าสักที

แต่เห็นหวานกันแบบนี้ใครจะคิดว่าทั้ง 2 คนเคยหวิดจะเลิกกันมาแล้วถึง 2 ครั้ง โดยล่าสุด เต๋อ มาเปิดใจเรื่องความรักในรายการ คุยแซ่บ Show สเปเชียล ทางช่อง One31 ที่มี ดีเจพุฒ พุฒิชัย และ เอส กันตพงศ์ เป็นพิธีกร แล้วมีช่วงหนึ่งที่ เต๋อ พูดถึงสาเหตุที่เคยเกือบเลิกกัน

คู่นี้ผ่านการปรับตัวและเกือบจะเลิกกัน 2 ครั้ง ?

แรกๆ เลยด้วยความคิดเราเอง เราคิดว่าเราไม่อยากจะเข้าไปวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวเขา เราไม่รู้เขาเป็นยังไงเขาอาจจะมีโลกส่วนตัวสูง เราเลยจะไม่เข้าไปยุ่งวุ่นวายเขามากก็จะโทรหาวันละครั้ง เวลาไลน์ไปก็ครั้งสองครั้ง ไม่ได้ไลน์ไปเยอะ ไม่ได้ไปถามว่าอยู่ไหน ทำอะไร ไม่ได้ไปจี้อะไรเขามาก

ด้วยความคิดของเราเองว่าเขาน่าจะสบายใจ คบแบบสบายใจ ว่างก็มาเจอกัน แต่เขาไม่ได้มองอย่างนั้นเขามองว่าคุณไม่ใส่ใจเลย เขารู้สึกว่าผมไม่เห็นจะใส่ใจอะไรเขาเลย วันๆ นึงโทรมาครั้งเดียว แล้วก็ไลน์มาเหมือนไม่ได้จะจีบจริงจัง ไม่ได้อยากจะทำความรู้จักจริงๆ ซึ่งเราไปคิดอีกแบบนึง

พอเขารู้สึกแบบนั้นเราไม่ได้คุยกัน สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ๆ วันนึงผมโทรไปก็ไม่รับ ไลน์ไปก็ไม่ตอบ 2 วันติดกัน ยาวๆ เลย 2 วัน หายไปเลย 2 วัน ใจก็คือชัดเจนแล้ว โดนเทแล้ว ผมคิดในใจว่าเทแล้วหลุดแน่ เขาไปแล้ว อย่างน้อยถ้าจะโดนเทก็ควรจะเคลียร์ให้มันดีอีกหน่อยจะได้คุยกันได้

ก็เลยพยายามตื๊อโทรไปเรื่อยๆ จนเขารับ จนได้คุยกัน ปรับความเข้าใจกัน ผมก็บอกว่าในมุมผมเป็นยังไง เขาก็บอกว่า พี่ มันไม่ได้ ถ้าพี่จะมาเป็นแฟนกัน ถ้าพี่จะมาเหมือนคบกัน มันต้องแชร์กัน ต้องคุยกัน ต้องให้เวลากัน เราก็เพิ่งเข้าใจ ก็ดีมาเรื่อยๆ จนผ่านมา 3 ปี เหตุการณ์ครั้งที่ 2 ก็เกิดขึ้น

เลิกครั้งที่2 ?

ยังไม่ได้เลิกด้วยนะ แต่มีความรู้สึกว่ากำลังจะ

ครั้งนี้แนวโน้มในการเลิกสูงกว่าครั้งแรกด้วย ?

ใช่ เพราะครั้งแรกไม่ได้ทะเลาะกัน ครั้งแรกเป็นแนวไม่เข้าใจกันแล้วก็เฟดกันไป ยังไม่ได้เริ่มต้นผูกพันกันมาก พอ 3 ปีผ่านไปผูกพันกันแล้ว ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าทะเลาะอะไรกัน สิ่งที่ทำให้เรื่องราวมันใหญ่โตคือพอทะเลาะกันเสร็จปั๊บผมเงียบเลย

ไม่พูดอะไรเลย ในความคิดเราคือเรามีคำพูดเยอะแยะมากเลยในหัวแต่ไม่รู้จะเรียบเรียงออกมายังไงให้ดีที่สุด แล้วเราก็รู้สึกว่าต่อให้เราพูดไปเขาก็ยังไม่พร้อมฟังตอนนี้ อยากจะให้มันดีก่อนแล้วค่อยคุยกันด้วยเหตุผล

พอเราไม่พูดกลับมาอีกรอบเดิมเลยเขาเกิดความรู้สึกว่าเราไม่ได้สนใจจะแก้ปัญหา เขารู้สึกว่าจะปล่อยให้เรื่องมันเงียบแบบนี้ต่อไปใช่มั้ย พอถึงเวลากลับมาดีกันแล้วเขาก็ต้องทำใจยอมรับมันไปกับสิ่งนี้เหรอ ก็คือรู้สึกว่าเราไม่ใส่ใจ ตอนนั้นก็เลยทะเลาะกันเถียงกันเยอะ

แต่ผมก็เงียบ ยิ่งเงียบเขาก็ยิ่งหงุดหงิด เขาก็ยิ่งจี้ๆ ผมก็พูดว่าคำในหัวมันเยอะอยากจะพูดในสิ่งที่ดีที่สุด เขาบอกว่าพี่ไม่ต้องคิดแล้วพี่อยากพูดอะไรพูดออกมาเลย ถ้าเรื่องอะไรมันจะแย่ก็ปล่อยให้มันแย่ไปเหอะ

ผมก็เลยพูดออกมาเลยแล้วแย่จริง กลายเป็นตึงไปเลย จังหวะนั้นความคิดที่ผุดขึ้นมาคือเลิกกันแน่เลย คิดว่าจบแล้ว ต้องเลิกกันแน่เลย คิดว่าจบแล้ว ผมก็พูดออกไปเลยก็นั่งคุยกันแล้วผมก็บอกออกไปประมาณว่าเรากำลังจะเลิกกันหรือเปล่า ผมกลัวว่ามันจะเป็นแบบนั้น รู้สึกว่าสิ่งนั้นกำลังจะเกิดขึ้น

แต่ตัวเขาไม่ได้คิดไปถึงขั้นนั้นเลย เขารู้สึกว่าอยากให้สถานการณ์นี้มันผ่านไปได้ด้วยดี อารมณ์เขาตอนนี้มันขึ้นมาก เขาต้องระบายออก เขาต้องพูด หน้าที่เราคือรับฟัง สื่อสารสิ่งที่พี่คิดออกมาเลย ทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติ

ผมก็โอเคถ้างั้นผมจะพยายามพูดมากขึ้น แต่ผมคิดว่าในแง่ความสัมพันธ์นี้เขาปรับเยอะกว่าผมมาก ความน่ารักของเขาคือว่าเขาเริ่มมาเข้าใจกับความเป็นตัวผมมากขึ้น ผมช้า ผมทำอะไรได้ทีละอย่าง ผมเป็นคนพูดน้อย

แม้ว่าจะเคยทะเลาะกันจนเกือบเลิกกัน แต่ว่าสุดท้ายแล้วทั้ง 2 คนก็พยายามปรับจูนกันจนหาจุดตรงกลางเจอ อย่างไรก็ขอให้มีข่าวดีไวๆนะคะ

ขอบคุณข้อมูล : terchantavit , davikah , รายการ คุยแซ่บShow