ก่อนหน้านี้นักแสดงสาว ลิลลี่ ภัณฑิลา ออกมาโพสต์คลิปที่เจ้าตัวร้องไห้แบบขาดสติ หลังจากที่เครื่องบินตกหลุมอากาศ แต่ก็ไม่วายโดนชาวเน็ตบางส่วนวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการทำคอนเทนต์ อีกทั้งยังโดนเกรียนคีย์บอร์ดเข้ามาคอมเมนต์แรงว่า ปลอม จนหนุ่ม ชิน ชินวุฒิ ผู้เป็นสามีต้องออกโรงป้องภรรยาตอกกลับคอมเมนต์ดังกล่าวไปอย่างดุเดือด
ล่าสุด หนุ่มชิน ก็ได้ให้สัมภาษณ์เรื่องที่ได้ตอบกลับคอมเมนต์คนที่มาว่าภรรยาว่า “ลี่เคยประสบอุบัติเหตุตอนขับรถ เขาก็เลยจะมีความกลัว แต่ไม่ได้เป็นถึงขั้นอาการ Panic Disorde คือคลิปนั้นถ่ายโดยผู้ช่วยของลี่ คงไม่มีใครบ้ากำลังกลัวร้องไห้แล้วถ่ายคลิปตัวเอง”
“คือผมมีรุ่นพี่ที่บินไฟลท์เดียวกับลี่ คลิปที่เราเห็นประมาณ 2 นาทีใช่ไหม แต่เขาบอกไฟลท์นั้นชั่วโมงกว่ามันสั่นมากๆ โคตรน่ากลัวตลอดทั้งไฟลท์ บอกตรงๆ เลยนะ ใครไม่กลัวมีสติมาก ตอนที่ลี่โทรหาผมตอนลงจากเครื่องมาแล้วก็คุยปกติ จังหวะนั้นเราก็ได้แค่ปลอบใจ
เพราะว่าเหตุการณ์มันผ่านมาแล้ว เขาก็ส่งคลิปมาให้ดูมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้วก็เล่าให้ฟังว่า กลัวมาก เครื่องมันขึ้นลงแบบตัวลอย ลี่ไม่ได้บินครั้งแรก แต่อาจจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ครั้งแรก เพราะฉะนั้นตกใจเป็นเรื่องปกติ”
“ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดว่ามันขนาดนั้น เพราะว่าเดินทางเยอะ เคยเจอ turbulence แบบหนักมาก ก็กลัวมากๆ เหมือนกัน แต่ความกลัวแต่ละคนไม่เท่ากัน เราก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอรุ่นพี่เล่าให้ฟังเพราะรุ่นพี่เป็นผู้ชายตัวใหญ่ๆ ยังกลัวเลย แสดงว่าเขาก็น่าจะเจอค่อนข้างแรงมาก”
“ลี่ไม่ได้เป็น Panic Disorde แต่ว่าด้วยประสบการณ์ที่ตัวเองเคยประสบอุบัติเหตุจากการเดินทาง มันเลยทำให้เขาเกิดอาการตอนนั้น มันคืออาการตกใจมากๆ เขาคงคิดว่าอยู่บนอากาศถ้าเป็นอะไร ไม่ได้เจอหน้าครอบครัว ไม่ได้เจอหน้าสามี ถ้าคนคิดแบบนั้นเกิดอาการแบบนั้น ผมเชื่อว่าทุกคนกลัวหมดครับ”
ลงคลิปไปคนเมนต์ว่าแรง เป็นดราม่า?
“ปกติครับ ต่างคนต่างความคิด ประสบการณ์คนเราไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการตีความแต่ละเรื่องที่เราเห็นมันก็ไม่เหมือนกัน แล้วก็ประเด็นที่ผมไปพิมพ์ตอบ ก็คงไม่มีใครชอบให้มาด่าภรรยาตัวเองหรอกครับ มันมีบางคนที่มันก็เกินไปมากๆ เหมือนกันไปถึงเรื่องพ่อแม่ ไปถึงเรื่องเชื้อชาติ ถ้ามึงจะพูดก็พูดกันต่อหน้า มึxอย่าพิมพ์ ไม่เท่”
คนว่าภรรยาเราทำคอนเทนต์?
“เขาไม่ได้เป็นคนถ่ายไงครับ ผู้ช่วยเขาเป็นคนถ่าย ต่อให้ผมมาพูดก็เหมือนมาแก้ตัวเพื่อภรรยาหรือเปล่า เอาเป็นว่าแล้วแต่ทุกคนจะคิดดีกว่า เพราะมันเป็นสิทธิของแต่ละคนที่จะคิดยังไง คนอยากถ่ายคอนเทนต์ก็เป็นเรื่องของคนที่ถ่ายคอนเทนต์เช่นเดียวกัน คนอยากพิมพ์ก็เป็นเรื่องของคนพิมพ์ แต่ส่วนตัวถ้าถามผมก็เป็นสิทธิ์ของทุกคนเช่นเดียวกัน สิ่งที่ผมพูดก็พูดตามสิ่งที่ผมคิดเหมือนกัน ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรแล้ว มันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว
ก็ถือว่าเป็นวิจารณญาณแล้วกันเวลาเราจะพิมพ์ จะไปว่าใคร ให้ดูก่อนว่าสิ่งที่เขาทำ เขาทำมาจากเจตนาอะไร เขาทำเพราะอะไร เพื่ออะไร ก่อนที่เราจะดูแค่ 30 วิ แล้วก็พิมพ์เลย ก็ฝากด้วยแล้วกันครับ ผมเชื่อว่าทุกคนก็ต้องอยากปกป้องภรรยาตัวเอง”
“ถามว่าซีเรียสมั้ยกับคอมเมนต์ ไม่ซีเรียส แต่แค่บางอันก็เกินไป ขนาดนั้นเลยหรอวะ แต่ว่าผมอยู่ในวงการมานานแล้วมั้ง แล้วการที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์มันก็เป็นเรื่องปกติ แต่แค่อย่าเกินเลย อยู่ในขอบเขต มีมารยาทนิดนึง”
จะฟ้องมั้ย?
“เสียเวลาครับ เราใช้ชีวิตกันต่อแบบดีๆ ดีกว่า เราไม่จำเป็นต้องไปยึดติดอะไร ทุกวันนี้ผมไม่คิดอะไรแล้ว”
เราเมนต์กลับไปแรงเหมือนกัน?
“ผมตั้งใจครับ ก็คิดแบบที่พูด ในเมื่อถ้าเขาคิดแบบที่เขาพูด ผมก็คิดแบบที่ผมพูด ก็ไม่ผิด เขาพิมพ์มาคำเดียวว่า ปลอม ผมก็พิมพ์คำเดียวว่า เสือก ถ้าเขาพิมพ์มากกว่านั้น ผมก็อาจจะพิมพ์มากกว่านั้น แต่เขาพิมพ์มาแค่นั้น ผมก็ตอบแค่นั้น ก็จบไป แล้วผมก็ไม่ได้กลับไปดูอีกเลย แค่นั้นเอง ไม่ขอโทษในสิ่งที่พิมพ์ไปครับ”
ขอบคุณข้อมูล: chinchinawut