สภาผู้แทนราษฎร จัดประชุมระหว่างวันที่ 28 – 31 พฤษภาคม 2568 มีวาระสำคัญเกี่ยวกับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 หรือ งบประมาณ 2569 โดยการอภิปรายงบประมาณครั้งนี้มีเวลาทั้งหมด 41 ชั่วโมง จัดสรรฝ่ายรัฐบาล 20 ชั่วโมง ฝ่ายค้าน 20 ชั่วโมงและประธาน 1 ชั่วโมง
ล่าสุด ไอซ์ รักชนก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 28 สังกัดพรรคประชาชน ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า
“ตอนนี้เราเข้าสู่การอภิปรายงบประมาณวันสุดท้าย อยากย้ำอีกครั้งว่า เป็นการอภิปรายการใช้เงิน 3.78ล้านล้านบาทซึ่งเป็นภาษีของทุกคนในประเทศนี้ เงินก้อน นี้คือตัวกำหนดว่าประเทศปีนี้จะเดินไปในทิศทางไหน
รัฐบาลจะทำอะไรไม่ทำอะไรจัดงบแก้ปัญหาประชาชนหรือจัดงบเพื่อผู้รับเหมากินอิ่มนอนหลับทุกอย่างมันจะฟ้องออกมาหมดในงบประมาณ ซึ่งรัฐมนตรีฝ่ายบริหารเป็นคนออกนโยบายว่าทำอะไร
แล้วก็มาขอเงินไปทำโครงการ ดังนั้นนายกประมุขฝ่ายบริหารและเหล่ารัฐมนตรีผู้บริหารกระทรวงมีหน้าที่ต้องมานั่งฟัง เพราะพวกคุณมาขอเงิน ดังนั้นมีหน้าที่ต้องตอบคำถามว่า ทำไมถึงจัดงบประมาณแบบนี้ มีเหตุผลความจำเป็นอะไร
ซึ่งในการอภิปรายครั้งนี้ ก็มีรัฐมนตรีที่มีพฤติกรรมอุบาทว์ซึ่งมีหลายระดับ ตั้งแต่ไปมุดหัวอยู่ที่ไหนรู้ไม่มีสภาด้วยซ้ำ บ้างก็ไม่อยู่ในประเทศไทย ไปจนถึงตอบคำถามเหมือนตีความภาษาไทยแตกฉาน
รัฐมนตรีบางคนไม่มาสภา นี่ก็ว่าแย่แล้ว บางคนไม่อยู่ในประเทศไทยด้วยซ้ำ ทั้งๆที่ปฏิทินการอภิปรายงบประมาณ ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า แต่ยังไม่ทำตัวให้ว่าง สำนึกในความรับผิดชอบ ต่ำตมมากจริงๆ
รัฐมนตรีบางคนก็ไม่ได้แม้แต่จะตั้งใจฟัง เมื่อวานมีอยู่ท่านนึง บอกว่าไม่ได้ฟังที่อภิปรายถาม จึงตอบไม่ได้ เพราะช่วงเช้าเซนทรัลมา เออให้มันได้อย่างงี้ มันมีอะไรที่สำคัญกว่าการอภิปรายงบประมาณได้ด้วยหรอ
รัฐมนตรีบางคน ก็ทำเป็นอยู่อย่างเดียวคือปากดี หาช่องโจมตีทางการเมือง ที่เราอภิปรายกันไม่ได้มีใครเค้าชังชาติ แต่เพราะการจัดงบที่ไม่ประสิทธิภาพของพวกคุณต่างหาก ที่มันจะทำให้ปรเทศเราถูกแช่แข็ง
ไม่มีใครต่อว่าประเทศไทยแต่เค้าด่าคุณ ถ้าบริหารเก่งเหมือนปาก ป่านนี้อะไรๆคงดีขึ้นให้ประชาชนได้เห้นแล้ว แล้วหลายๆคน บอกเลยว่า ฟังแล้วสงสารประเทศนี้จริงๆ ที่ได้คนแบบนี้เป็นรัฐมนตรี หลายคนเป็นมาไม่รู้กี่สมัยกี่กระทรวง
ตอบเหมือนไม่มีไรอยู่ในหัวเลย เอาคลิปทีไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการอภิปรายมาเปิดเพื่อให้ได้บอกว่า มาตอบแล้วนะ.. มีอำนาจแล้วยังไงก็ช่วยเลือกคนเก่งๆเป็นมืออาชีพมาเป็นหน่อยไม่ได้หรอ เมื่อไหร่ประเทศนี้จะหลุดจากระบบโควต้า สิบสสแลกหนึ่งเก้าอี้รมต”
ขอบคุณข้อมูล: รักชนก ศรีนอก – Rukchanok Srinork