เรียกได้ว่าวันนี้ 31 พฤษภาคม 2568 ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย (ภท.) อภิปรายงบประมาณประจำปี 2569 ในส่วนของงบลงทุนประมาณ 7 แสนล้านบาทว่า
มีคนกล่าวว่าทำไมช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวยในประเทศนี้จึงห่างขึ้นทุกวัน ในปี’69 งบลงทุน 7 แสนล้าน เป็นงบก่อสร้าง จำนวน 4.75 แสนล้านบาท
ซึ่งงบก่อสร้างวันนี้ไม่เหมือนอดีต เพราะวันนี้ไปแบงก์เอาไปแล้ว 5% ตนจึงอยากฝากถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องเข้ามาดูเพราะเอาเปรียบพี่น้องประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีค่าประกันสัญญา 2.5% เรื่องเร่งรัดการเบิกจ่าย 15% และค่าธรรมเนียมต่างหาก เงินส่วนนี้ไม่ได้กระจายไปสู่ข้างล่าง
จึงเกิดช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย ซึ่งไม่ว่ารัฐบาลชุดไหนโครงสร้างงบประมาณก็เหมือนกัน กลุ่มทุนเอาไปมาก แบงก์เอาไปเยอะ สิ่งสำคัญการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ใช่เฉพาะการก่อสร้างเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการพัฒนาแรงงานด้วย
นายชาดากล่าวด้วยว่า ในอดีตตนไม่เห็นด้วยกับการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย แต่ปัจจุบันตนเห็นด้วย ฝากถึงนายกรัฐมนตรีต้องแจก เงินมี
ใครที่อยู่ข้างบนแจกไม่ได้ลงมาเอาคนอื่นขึ้นไปนั่ง ถ้าไม่มีปัญญาทำให้นายกฯได้ก็ลงมาคนเยอะแยะ ประเทศไทยมีเงินเยอะ อะไรติดขัดก็แก้ อย่าไปแจกใกล้ๆ เลือกตั้ง ถ้าไม่แจกเขามาแน่นายกฯเท้ง
นายชาดาอภิปรายถึงปัญหาฝุ่น PM2.5 ว่า พี่น้องเกษตรกรของตนเป็นจำเลยมาตลอดเวลา วันนี้รัฐบาลทำอะไรอยู่ ถ้ามีความจริงใจแก้ปัญหาจริงๆ ฝากให้รถหลวงทุกคันได้ใช้รถไฟฟ้า
กทม.ทำไมไม่ใช้รถไฟฟ้า หน่วยงานที่ปล่อยคาร์บอนหนักหนาใน กทม. คือบรรดารถของหน่วยงานราชการทั้งหลาย ดังนั้น รัฐบาลต้องสนับสนุนให้ใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น