ประชาชนให้ความสนใจอย่างมากเลยค่ะ สำหรับวันที่ 1 มิ.ย.2568 ที่ผ่านมา ที่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย 100% ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 122 ซึ่งกำหนดให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และคนโดยสารรถจักรยานยนต์ ต้องสวมหมวกนิรภัยเพื่อป้องกันอันตรายในขณะขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์
หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และในส่วนของผู้โดยสารหากไม่สวมหมวกกันน็อก ผู้ขับขี่จะมีโทษปรับเป็น 2 เท่า
ล่าสุดทางด้านของ พันตำรวจเอก เอกราช หุ่นงาม หรือว่า สารวัตรเอก ตำรวจชื่อดังก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวถึงประเด็นนี้
โดย สารวัตรเอก ระบุว่า “ผมนั่งคิดแบบส่วนตัวของผมเอง ผิดถูกผมไม่รู้ ตามหมวด ๓ ของกฎหมายรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย คือพูดง่ายๆว่าการทำอะไร ถ้าเราทำอะไรแล้วไม่ละเมิดสิทธิของคนอื่น ไม่สร้างความเสียหายให้รัฐย่อมทำได้
แล้วมาดูเรื่องการบังคับให้คนขับ จยย.ต้องสวมหมวกกันน็อค ถ้าไม่สวมปรับ 2-4,000 คิดแล้วคิดอีก ว่าคนไม่สวมหมวกกันน็อคมันไม่ได้ละเมิดสิทธิใครเลย ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แล้วทำไมต้องบังคับเพิ่มค่าปรับจากเดิมมากขึ้น
ตรงกันข้ามกับคนเสพยาบ้า สร้างแต่ความเดือดร้อนให้คนรอบข้างทุกคน ไม่เว้นแม้แต่พ่อแม่ลูกเมีย หรือญาติพี่น้อง ทำไมถึงลดโทษลงเหลือแค่เป็นผู้ป่วย แถมมีเงินให้เข้ารับการบำบัดกินฟรีอยู่ฟรีอีก
กฎหมายแบบนี้ คงต้องหาคำตอบต่อไป ว่ามันเป็นธรรมจริงหรือ แล้วคนออกกฎหมายหวังแค่ให้คนขับขี่ จยย.ได้รับความปลอดภัยจริงหรือ..#ถ้ากฎหมายออกมาด้วยความห่วงใยเหมือนพ่อแม่ห่วงใยลูกประชาชนคนรากหญ้าคงมีความสุขไม่น้อยเลยทีเดียว……มาตรา ๒๕”
ชาวเน็ตคอมเมนต์กันรัวๆเลยว่า ชื่นชมครับ-พูดได้ถูกต้องครับ , น่าจะเห็นใจประชาชนหาเช้ากินค่ำบ้าง , ถูกใจครับมากๆๆ , ส่วนมากครับไม่ละเมิดแต่มีพวกพึ่ฝขึ้นมาจากหลุมจะมักมีปัญหา
ซึ่งโพสต์นี้ของ สารวัตรเอก ก็มีชาวเน็ตเข้ามากดไลค์กว่า 6.5 หมื่นคน และกดแชร์อีกว่า 4.3 พันครั้งเลยทีเดียวค่ะ
ขอบคุณข้อมูล : พันตำรวจเอก เอกราช หุ่นงาม
