ส่งกำลังใจให้ นักแสดงรุ่นใหญ่ เล่าวิกฤตชีวิต

โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมานาน สำหรับนักแสดงรุ่นใหญ่ ต๋อย นฤมล เปี่ยมพงษ์สานต์ หรือ นฤมล นิลวรรณ ก่อนหน้านี้ได้ออกมาโพสต์เล่าวิกฤตชีวิต หลังผ่าตัดกระดูกสันหลัง

ระบุว่า ผ่าตัดกระดูกสันหลัง 6 มิถุนายน 2568 เขียนไว้เป็นบันทึกสำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับเข่า ขาและกระดูกสันหลัง เป็นข้อเข่าเสื่อมมาเกิน10 ปี งอเข่า พับขาไม่ได้ ขึ้นบันไดเจ็บปวดทุกก้าวย่าง

หาหมอรักษามาหลายโรงพยาบาลในกรุงเทพแทบจะเกือบทุกโรงพยาบาล ปลายปี 2566 – พฤษภาคม 2567 ต้องผ่าตัดเข่าขวาเสื่อมรุนแรงแต่ยังผ่าตัดไม่ได้เพราะถ่ายละครยังไม่เสร็จ ขอฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเข่าไปก่อน ฉีดไป 2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 3 เดือน

ขาบวม ดำ เท้าดำบวม เอาสก็อตไบรท์ขัดคิดว่าสกปรกก็ไม่หาย เส้นเลือดขอดและเส้นเลือดฝอยแตกกระจายที่ขาและน่องทั่วทั้ง 2 ขาและแข้งจนถึงเท้า รักษากินยาเส้นเลือดขอดดีขึ้นนิดหน่อย

รักษาเข่าขวาเสื่อมต้องผ่าตัดจริงๆแล้ว แต่ต้องรอคิว 25 ธันวาคม 2567 เจ็บเข่ามากขับรถ ไปโรงพยาบาลใหญ่ใกล้บ้าน ไปถึงเดินเกาะข้างผนังไปตลอดทาง ปวดทนไม่ไหวต้องนั่งพักกับพื้นเป็นระยะ

เวชระเบียนบอกคุณป้าต้องนั่งรถเข็น อิดออดเพราะไม่อยากคิดว่าตัวเองเป็น คนพิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แต่น้องเวชระเบียนไม่ยอม ให้ได้รับการตรวจแบบฟาสต์แทรค บริการดีมากๆ

โทรหาลูก ติดประชุม แต่ลูกบอกแม่รอหนูนะเดี๋ยวประชุมเสร็จหนูบึ่งไปหาแม่เลย ได้ตรวจ 2 ทุ่ม ลูกมาถึงเห็นแม่นั่งบน รถเข็นลูกเข้ามากอด บอกแม่เก่งมาก

ไม่เป็นไรนะคะ ตรวจเสร็จได้ยามากิน คิวนัดต่อไปคือกลางเดือนกุมภาพันธุ์กับเมษายน 2568 เพื่อพบหมอเฉพาะทาง เข่าและหลัง เราก็เอ๊ะทำไมต้องตรวจกับหมอหลังด้วย

31 ธันวาคม 2567 ลูกมีวันหยุด ก็พาไปโรงพยาบาลไทยนครินทร์ บางนา เอิ่ม…บ้านอยู่รามอินทรา ไปโรงพยาบาลบางนาเนี่ยนะ พบคุณหมอแผนกกระดูกและข้อ

นพ.อนุชิต เวชชัยชีวะ ผู้เชี่ยวชาญกระดูกและข้อที่ลูกรีเสิร์ชมาแล้วว่าเก่ง คุณหมอฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเข่าแบบโมเลกุลใหญ่เพื่อให้มีประสิทธิภาพนานหน่อย

สาเหตุคือมันปวดแบบที่เรียกว่าเจ็บปวดมากถึงมากที่สุด เข่าขวาเจ็บแบบกระดูกมันเกยกัน เข่าซ้ายเจ็บ ก้นซ้ายเจ็บปวดร้าวลงขาถึงข้อเท้า แข้งและน่องดำปี๋ทั้ง 2 ข้าง เส้นเลือดดำเส้นเลือดแดงแต่มันดำ กระจายไปทั่ว ข้อเท้าบวมทั้ง 2 ข้าง

ไม่สามารถยืนตัวตรงได้เลย ต้องก้มตัวแล้วใช้แขนเท้าโต๊ะหรือขอบอ่างทุกกิจกรรมต้องใช้เก้าอึ้พลาสติคตามตลอดเพราะต้องนั่งพักทุกการเดิน 3 ก้าว จากผลเอกซเรย์และ MRI คุณหมอบอกว่ามันมีปัญหาที่กระดูกสันหลัง L 5 กับS1

ให้ยามากินกับการฉีดน้ำหล่อเลี้ยงเข่า แล้วรอดูอาการ เดือนเมษายน 2568 คุณหมอบอกว่าต้องแก้ปัญหาที่หลังก่อนแล้วค่อยจัดการเรื่องเข่า แต่ใจเราอยากผ่าเข่าก่อน

คุณหมอยืนยันต้องผ่าหลังก่อนให้เวลา ตัดสินใจ 1 เดือน สรุปนัดผ่าตัดกระดูกสันหลังที่มีปัญหา วันที่ 6 มิถุนายน 2568 ให้อดอาหารและน้ำ 7 โมง เช้า ให้ถึงโรงพยาบาล

11โมงเพื่อผ่าตัดเวลา 15.00 น. เอ่อ…คุณหมอคะชิลล์ไปมั้ย เข้าห้องผ่าตัดความดันขึ้น 180 คงกลัวแหละ ผ่าตัดนานมากจากที่กำหนดไว้ 2 ชั่วโมง

ลูกเดินเป็นเสือติดจั่น รอหน้าห้องผ่าตัด นานมากเกิน 2 ชั่วโมง ลูกประสาทกินแล้ว คนอื่นเค้าเข้าทีหลังเค้าออกมากันแล้ว ทำไมแม่ไม่ออกมาซักที ฟื้นจากการผ่าตัด ชิลล์มาก คุยกับพยาบาลได้ ออกจากห้องผ่าตัด

เกือบ 2 ทุ่ม กลางดึกคอแห้งแสบ และสากเหมือนทะเลทราย ลูกคอยหยอดน้ำทั้งคืน เช้าตื่นมาหิวมาก กินข้าวเหนียวมะม่วงเลยจ้า…555

นอนโรงพยาบาล 2 คืน คุณหมอเข้ามาดูอาการทุกวัน มีนักกายภาพมาสอนการลุกนั่งและการปฏิบัติตัวที่ถูกวิธี

วันนี้ อาทิตย์ที่ 8 มิถุนายน 2568 มีนักกายภาพมาสอนเดิน และการลงจากเตียงการลุกนั่งให้ถูกวิธี ช่วงเช้ายังต้องใช้วอล์คเกอร์ช่วยเดินเพื่อความปลอดภัย 11 โมงเดินเองได้โดยไม่ต้องใช้วอล์คเกอร์หรือคนช่วยประคอง แต่ต้องใส่ซัพพอร์ตประคองหลัง

คุณหมออธิบายว่าที่ใช้เวลานานในการผ่าตัดซึ่งเป็นการผ่าตัดแบบส่องกล้อง คุณหมอจะมีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญมาเป็นที่ปรึกษาและผู้ช่วยในการผ่าตัด เริ่มผ่าตัดเจอว่า L5 กับ S1 มีปัญหา

ตามผล MRI แต่พบกระดูกงอกอีก1จุด เจอL4 มีปัญหาอีก ก็เลยจัดการเคลียร์ทุกจุดที่พบ และใช้อุปกรณ์ใส่ทดแทนค้ำพยุงไว้ เลยใช้เวลานานมาก หลังผ่าตัดขาและซีกซ้ายทั้งฝั่งเคลียร์

เหมือนไม่เคยปวดมาก่อน ฝั่งขวายังมีปัญหานิดหน่อย กินยา 2 วันระหว่างอยู่โรงพยาบาลอาการก็หายไป หลังผ่าตัดอยากไปกินอาหารญี่ปุ่น ลูกบอกพอก่อนแม่ กินที่บ้านไปก่อน …555

อยากบอกว่า คนที่มีปัญหาเรื่องเข่า เรื่องขาบวม อย่าคิดว่ามันเป็นที่เข่าอย่างเดียวบางทีมันอาจมีที่กระดูกสันหลังมันเสื่อมหมอนรองกระดูกมันปลิ้น ไปกดทับเส้นประสาท ทำให้มันเกิดอาการเจ็บปวดและอาการผิดปกติต่างๆ

ถ้าใครเคยดูหนังชัตเตอร์เกาะติดวิญญาณที่มีผีห้อยขา ความเจ็บปวดของฉันมันเหมือนมีผีนับร้อยๆตัวห้อยต่องแต่งเกาะแข้งเกาะขาเกาะหลังเต็มไปหมด อย่าปล่อยให้ความเจ็บปวดมันลุกลามจนรักษาไม่ทันจนพิการ สังเกตอาการ

ตัวเอง หาหมอที่เชี่ยวชาญตรวจรักษา ขอให้ทุกคนที่มีปัญหาเรื่อง ขา เข่า และกระดูกสันหลัง ได้พบหมอและการรักษาที่ถูกทาง หายดีนะคะ ผ่าตัดกระดูกสันหลังไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด

ขอบคุณข้อมูล : Narumon Peampongsanta