ออกมาเคลื่อนไหวถึงประเด็นชายแดน ไทย-กัมพูชา อย่างต่อเนื่องเลยทีเดียวค่ะ สำหรับ พลตรี วันชนะ สวัสดี หรือที่หลายคนเรียกกันว่า ผู้พันเบิร์ด ซึ่งแต่ละครั้งที่ ผู้พันเบิร์ด ออกมาเคลื่อนไหวก็มักจะได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้ที่ติดตาม
อย่างล่าสุด ผู้พันเบิร์ด ก็ได้ออกมาโพสต์ถึงประชาชนชาวกัมพูชา โดยระบุว่า “ถึงประชาชนชาวกัมพูชา ความเดือดร้อนที่ประชาชนกัมพูชาได้รับอยู่ในขณะนี้นั้น เป็นผลมาจากการตัดสินใจของ รัฐบาลกัมพูชาทั้งสิ้น
และที่สถานการณ์ล่วงเลยมาจนปัจจุบัน เหตุเพราะรัฐบาลกัมพูชาเริ่มก่อนทั้งนั้น ตั้งแต่สร้างสถานการณ์ เผาศาลาตรีมุข และ เอากำลังล้ำเขตแดนไทยที่ แนวต้นพญาสัตบรรณ จากนั้น ไทยไม่ได้เริ่มมาตรการอะไรก่อนเลย เพียงแค่คิดเบาๆเท่านั้น กัมพูชาก็เริ่มทำการตอบโต้ด้วยมาตรการที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนกัมพูชาเอง
ไทยคิดจะตัดไฟ กัมพูชาก็งดใช้ไฟก่อน กลับไปใช้ไฟที่ผลิตในประเทศที่ต้องติดๆดับ เรื่องไฟฟ้า ปัจจุบัน เขมรงดการใช้ไฟฟ้าเองจากไทยแล้วทั้ง 9 จุด (ตรวจสอบปริมาณการใช้ไฟแล้วมีค่าเป็นศูนย์) ไทยยังคงปฏิบัติตามสัญญาเรื่องการจ่ายไฟระหว่างกันเหมือนเดิม ไม่ใช่เป็นการตัดไฟตามที่เขมรประกาศกร้าวไว้
ส่วนไทยมีมาตรการที่จะตัดไฟฟ้าหรือไม่นั้น ตอบได้ว่า มี ซึ่งเป็นมาตรการร่วมกันกับมาตรการอื่นๆ ที่จะออกตามมาตามสถานการณ์ โดยการอนุมัติตัดไฟนั้น ต้องมีมติสั่งการจาก สมช. ก่อน“ ไทยคิดจะตัดอินเตอร์เน็ต กัมพูชาก็งดใช้อินเตอร์เน็ตจากไทยเอง
แถมมาด้วยเรื่องงดดูละครไทย งดใช้สินค้าไทย (ที่ปัจจุบันยังเห็นคนเขมรข้ามมาตุนสินค้าไทยกลับไปอยู่) กัมพูชาแจ้งประชาชน งดมารักษาพยาบาลฝั่งไทย (มาเถอะ ไทยพร้อมช่วย ซึ่งกรณีฉุกเฉินไทยรับได้ตลอด ที่ผ่านมาก็มีให้เห็น)
เรื่องนักเรียนที่ข้ามมาเรียน ไทยก็ยินดีเสมอสำหรับการศึกษา เมื่อกองทัพอากาศไทยตรวจความพร้อมด้านอากาศยาน กัมพูชาออกมาบอกเลยว่า จะตบรางวัลทหารกัมพูชาที่ยิงเครื่องบินรบไทยได้ ไทยคิดว่าจะตัดน้ำมัน กัมพูชาก็งดนำเข้าจากไทยก่อน(ต่อไปก็ใช้น้ำมันแพง โดย ผ่านบริษัทผูกขาดในประเทศกัมพูชา)
เมื่อไทยกำหนดเวลาเปิดเปิดด่าน กัมพูชาก็กำหนดเวลาให้เหลื่อมกัน สร้างความลำบากให้กับประชาชนที่สัญจรไปมาตามชายแดนซ้ำ เพียงแค่ไทยคิดเบาๆ ผู้นำกัมพูชาก็เล่นใหญ่เกินเบอร์สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนกัมพูชาอย่างเลี่ยงไม่ได้”
ซึ่งโพสต์นี้ของ ผู้พันเบิร์ด ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ส่วนสถานการณ์ระหว่าง ไทย-กัมพูชา จะเป็นอย่างไรคงจะต้องรอติดตามกันต่อไป
ขอบคุณข้อมูล : Wanchana Sawasdee