ณเดชณ์ คูกิมิยะ เปิดใจดราม่า เอาดารามาพากย์หนัง

จากกรณีที่เอาดารา-นักแสดงมาพากย์เสียงภาพยนตร์แล้วถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ล่าสุด พระเอกหนุ่ม “ณเดชณ์ คูกิมิยะ” ที่มีโอกาสได้มาพากย์ภาพยนตร์เหมือนกันจึงโดนถามถึงเรื่องนี้ด้วย

ซึ่ง ณเดชน์ ก็ได้เปิดใจถึงกรณีนี้แล้วว่าจริงๆเป็นประสบการณ์ที่ดี และตัวเองก็ต้องมีการสะสมประสบการณ์มาจนถึงเรื่องล่าสุดเหมือนกัน เอาเป็นว่าจะว่ายังไงบ้างนั้นไปอ่านกันเลยดีกว่า

ถามถึงประเด็นนักแสดงมาพากย์เสียงภาพยนตร์ ในฐานะที่เรามีประสบการณ์พากย์เสียงเราคิดเห็นยังไง ?

ณเดชน์ : ผมว่าเป็นโอกาสที่ดีนะครับที่นักแสดงได้มีโอกาสทำงานพากย์ มันเป็นประสบการณ์ใหม่ๆ มันเป็นศาสตร์ใหม่ๆ ที่เราได้เรียนรู้ถึงแม้ว่าจะมีดราม่าอะไรก็ตาม แต่ผมเชื่อว่าอย่าหยุดเถอะครับ อย่าหยุด เราคือคนบันเทิงด้วยกัน เพราะฉะนั้นในการให้โอกาสให้พื้นที่ในการทำงาน มันเป็นสิ่งที่เราก็ควรจะให้โอกาสกันและกัน ในการที่จะได้ทดลองทำหรือมีประสบการณ์ในการทำงานในชีวิตผมว่ามันไม่ได้มีอะไรที่เสียหายกับการได้มีโอกาสได้ทำ

เรามองว่าเป็นศาสตร์ที่เพิ่มศักยภาพให้กับเราได้ในการทำงาน ?

ณเดชน์ : ใช่ครับ คือการแสดงด้วยน้ำเสียง หรือว่าน้ำเสียงที่เราใช้ แม้กระทั่งการเล่นละคร แต่ละตัวละครเราสามารถที่จะดีไซน์เสียงให้มันแตกต่างกันได้ เพราะฉะนั้นเรื่องการวอยซ์โปรเจ็กต์ การโปรเจ็กต์เสียง การใช้ช่องเสียง มันเป็นศาสตร์หนึ่งเราในฐานะนักแสดงเราก็เรียนรู้มันได้เหมือนกัน แล้วยิ่งเราได้เรียนรู้งานพากย์ เรื่องของวิธีการพูดหรือการใช้เสียง มันก็จะอยู่ตรงนั้นอยู่แล้วมันเป็นไอเท็มที่ดีมากๆที่เรานำมาใช้ในการปรับการแสดงได้

แต่เราได้รับคำชมในเรื่องของการพากย์เสียง สอบผ่าน ?

ณเดชน์ : ถ้าสมมติว่าผมมาพากย์จูราสสิคเรื่องแรก ผมว่าผมก็ไม่รอดเหมือนกัน แต่ว่าเราเองก็มีประสบการณ์ แล้วเราก็มีวอยซ์ไดเร็กเตอร์ด้วย นักพากย์กันเองก็ยังต้องมีคนคุมอยู่ เช่นเดียวกันก็จะเป็นไดเร็กเตอร์ที่คอยกำกับควบคุมโทนหรือวิธีการใช้เสียง แม้กระทั่งมืออาชีพเอง เขาก็ยังต้องมีวอยซ์ ไดเร็กเตอร์ นักแสดงพวกเราก็ต้องการเหมือนกันบุคคลเหล่านี้ช่วยให้เราก้าวข้ามผ่านอะไรตรงนี้ไปได้

การเป็นนักแสดงทำให้เรากดดันมากขึ้นมั้ย เพราะอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราถนัดที่สุด ?

ณเดชน์ : ผมว่าเราได้เปรียบนะครับถ้าเราเป็นนักแสดง แล้วเรามีโอกาสได้พากย์เสียง ถึงแม้ว่าเสียงอาจจะไม่ได้มีเสน่ห์หรือมีลักษณะคล้ายกับนักพากย์แต่เรื่องอารมณ์ ผมว่าลึก ๆ แล้วความเป็นนักแสดงเราเข้าใจอารมณ์ของตัวละคร เพราะฉะนั้นมันก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ไม่ใช่ว่าพี่ๆนักพากย์ไม่ได้เข้าใจเรื่องของอารมณ์ เขาคือมืออาชีพอยู่แล้วเขาจะเข้าใจวิธีการทำน้ำเสียงแบบนี้จะเป็นอารมณ์ประมาณนี้แต่ว่ารสชาติใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นจากการพากย์เสียงของนักแสดง มันก็เป็นอีกรสชาติหนึ่งเหมือนกัน

ตอนพากย์ครั้งแรก เคยโดนวิจารณ์บ้างมั้ย ?

ณเดชน์ : ผมก็คงมี แต่ผมคงไม่ได้ยินหรือว่ายังไม่รู้ (หัวเราะ) ก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

ถ้าสมมติเจอสถานการณ์แบบนี้ จะรับมือยังไง ?

ณเดชน์ : มันไม่มีใครไม่เครียดหรอกครับ เวลาที่เราโดนกระแสสังคมวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ว่าจะใครก็ตามจะเป็นศิลปินนักแสดง แม้กระทั่งคนธรรมดาที่เล่นโซเชียลมีเดียโดนคนในโซเชียลมีเดียด่าถูกวิพากษ์วิจารณ์เขาก็เก็บมาคิดมาเครียดเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราอาจจะต้องมองในมุมมองของคนที่เป็นอีกคนนึงด้วยว่าการที่เราไปพูดหรือใส่ร้ายอะไรที่มันเกินความเป็นจริง โดยที่เรายังไม่รู้ลึกตื้นหนาบาง มันก็เป็นสิ่งที่เราไม่ควร เพราะฉะนั้นการที่เราจะไปวิพากษ์วิจารณ์อะไรก็ตามไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องงาน ผมว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องคำนึง เพราะมันจะติดเป็นนิสัย

เอาเป็นว่ายังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายด้วยนะคะ เข้าใจทั้งคนที่อยากทำงานและเข้าใจคนที่คาดหวังเลย

ขอบคุณข้อมูล : @ kugimiyas