กองทัพบก เปิดจำนวนผู้เสียชีวิต หลังกัมพูชาโจมตีในเขตพลเรือน

สืบเนื่องจากกรณีที่ทางกัมพูชาเปิดฉากโจมตีฝั่งไทย และมีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย ล่าสุด ทางเพจ กองทัพบก Royal Thai Army ก็ได้ออกมาโพสต์ประณามการกระทำดังกล่าว

พร้อมกับอัพเดทว่าตอนนี้มีพลเรือนไทยเสียชีวิตแล้วจำนวน 9 ราย และตรงพื้นที่ปั๊มน้ำมันนั้นเสียชีวิตถึง 6 รายด้วยกัน รายละเอียดจะมีอะไรบ้างนั้นไปอ่านกันเลย

กองทัพบกขอประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา กรณีใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายพลเรือนในเขตแดนไทย ล่าสุดพบประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการกระทำดังกล่าวแล้ว ย้ำฝ่ายไทยพร้อมปกป้องอธิปไตยและประชาชนจากการกระทำอันผิดหลักมนุษยธรรมดังกล่าว จากสถานการณ์การปะทะพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา อันสืบเนื่องมาจากฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงเข้าใส่ฐานทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ตั้งแต่เมื่อเช้าวันนี้ (24 ก.ค. 68) ปัจจุบันกองทัพบกได้รับรายงานเบื้องต้นจากส่วนราชการในพื้นที่ว่า มีพื้นที่พลเรือนตกเป็นเป้าหมายของอาวุธยิงสนับสนุนของฝ่ายกัมพูชา จนทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย รวมถึงมีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ดังนี้

1. พื้นที่บริเวณปั๊ม ปตท. บ้านผือ ต.หนองหญ้าลาด อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 6 ราย บาดเจ็บ 10 ราย

2. พื้นที่บ้านโจรก ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิต 2 ราย (1 รายเป็นเด็กชายอายุ 8 ปี) และได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ส่งต่อ รพ.กาบเชิง

3. พื้นที่บ้านกุดเชียงมุน, บ้านจันลา, บ้านโพนทอง ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย

4. พื้นที่บ้านขี้เหล็ก ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ส่งผลให้บ้านเรือนและสัตว์เลี้ยงทางการเกษตรได้รับความเสียหาย

5. พื้นที่หมู่ 16 ต.บ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ พบผู้บาดเจ็บ 1 ราย

6. พื้นที่บ้านหนองแรด ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย

7. พื้นที่บ้านนายบุญล่วม ทองวิเศษ หมู่ 9 ต.โดมประดิษฐ์ ส่งผลให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ กองทัพบกขอประณามการกระทำอันรุนแรงต่อเป้าหมายพลเรือนของฝ่ายกัมพูชา และพร้อมดำเนินการทางทหารเพื่อปกป้องอธิปไตยและประชาชนจากการกระทำอันผิดหลักมนุษยธรรมดังกล่าวอย่างถึงที่สุด

ทางเราก็ต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวของผู้สูญเสียทุกราย

และหวังว่าจะไม่มีครอบครัวไหนต้องสูญเสียคนที่รักไปเพราะเหตุการณ์ความรุนแรงในครั้งนี้อีก

ขอบคุณข้อมูล : กองทัพบก Royal Thai Army