แม้จะผิดพลาดแต่ก็พร้อมยอมรับและแก้ไข สำหรับ “แม่เกตุ” คุณแม่ของนักร้องสาว “เจนนี่ รัชนก” หรือ “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” หลังโดนโพสต์ทวงเงิน ซึ่งในไลฟ์ขายของของคุณแม่ เจนนี่ ก็ได้พูดให้กำลังใจ
รวมถึงช่วยชี้แนะวิธีแก้ปัญหา พร้อมกับตอบคำถามที่แฟนๆสงสัยด้วยว่าทำไมมีตังค์เยอะถึงไม่ช่วยแม่เยอะๆ ? เอาเป็นว่าจะว่ายังไงบ้างนั้นไปอ่านกันเลยดีกว่าค่ะ
เจนนี่ : หลายคนก็สงสัยว่า เจนนี่ มีตังค์มากทำไมไม่ช่วยแม่ให้มากๆ แกก็ไม่ได้มาเดือดร้อนอะไรเจนนี่เลย แกไม่ได้บอก ไม่ได้พูดอะไร แกก็แก้ปัญหาในส่วนของแกไป
แม่เกตุ : มันคนละประเด็นกันลูก แม่ได้ทำงาน แม่ก็ดีใจแล้ว
เจนนี่ : ดีแล้วถือว่าปลดล็อก ไม่มีอะไรติดค้างปิดบังใคร เราก็สู้ใหม่ชีวิต ทำงาน ตั้งตัวใหม่ ไม่มีใครพลาดทั้งชีวิต อีกอย่างครอบครัวเรามาจากความจนการที่เจนนี่มีตังค์หนึ่งคน ไม่ได้แปลว่าคนในบ้านต้องมีทั้งหมด
เจนนี่ : แล้วแน่นอนเวลาที่เรามี จะมีช่วงอารมณ์ชั่ววูบที่เราอาจจะหลงผิดหรือคิดไม่ทันคิดไม่ถึง เกิดเรื่องเหตุการณ์ร้ายๆ มากมาย แต่แค่เรารู้จักรีเซ็ตตัวเองใหม่เริ่มต้นใหม่ให้เป็น แค่นั้นเอง ไม่อยากให้แม่เครียด แม่ก็มีหลานน่ารักตั้ง 2 คน
แม่เกตุ : แม่สู้อยู่แล้ว แม่ผ่านมาแล้ว นี่มันผ่านมานานแล้ว แต่แม่ไม่อยากบอกน้อง
เจนนี่ : สิ่งที่อยากให้แม่ทำคือ ยอมรับความจริง ไม่ต้องไปตอบโต้ใคร แล้วทำงานพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าแม่ก็เป็นคนขยันคนหนึ่ง แล้วแม่ไม่ได้แย่ทุกเรื่องที่ร้องเพราะเห็นความขยันของแม่ มันอาจจะช้าสำหรับทุกคนสักนิด แต่เราก็เห็นมาตลอด แม่ขายของทุกวัน อาจจะไม่ทันแล้ว แต่ไม่เป็นไร
เจนนี่ : เจนนี่ จะไม่แก้ปัญหาให้ใครแล้ว เพราะทุกคนต้องเติบโตด้วยตัวเอง แต่หลังบ้านคุยปัญหาจะไปทางนี้ทางนั้น เจนนี่ไม่ทิ้งครอบครัวอยู่แล้ว คุยหลังบ้านแก้ปัญหาที่ละสเต็ปสเต็ปแรกคือต้องทำงาน ปัญหาเรื่องเงิน เราก็ต้องหาเงิน ทุกวันนี้ถ้า เจนนี่ ลิลลี่ แม่ ขายของ ขอทุกคนช่วยสนับสนุน
เจนนี่ : สงสารเจนนี่ สงสารยิว ทุกคนให้กำลังใจได้ ไม่ต้องสงสารเชื่อว่าคนลำบากกว่าเจนนี่มีอีกเยอะ ขอบคุณทุกคน เจนนี่โอเค ไม่ตกใจกับอะไรที่เกิดขึ้นมันผ่านอะไรมาเยอะมาก ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วดีเสมอ ทุกคนก็มีเหตุผลของตัวเองทั้งนั้น ที่ตัดสินใจทำอะไร ทำด้วยความจำเป็น ผิดพลาด แต่ผิดพลาดแล้วต้องแก้ปัญหายังไง แม้วันนี้ต้องโดนทัวร์ลง โดนด่า เราก็ต้องแก้ปัญหา ตราบที่ยังมีลมหายใจ เราก็ต้องสู้ต่อแค่นั้น
ท่ามกลางแฟนๆที่ชื่นชมความคิดของเจนนี่มากมาย เพราะไม่แก้ปัญหาแต่จะช่วยให้คนในครอบครัวเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
ขอบคุณข้อมูล : รัชนก สุวรรณเกตุ