โดยวันนี้ ที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ (มทภ.) 2 ให้สัมภาษณ์ว่า แม้ตนจะเกษียณฯ แต่ก็ยังเป็นคนไทย และอยู่ช่วยเหมือนเดิม สำหรับเสียงเรียกร้องให้ต่ออายุราชการนั้น เป็นเรื่องกระแสสังคมมากกว่า
แต่ตนปฏิบัติหน้าที่ตามอายุราชการ วันที่ 30 กันยายน ก็จบหน้าที่แล้ว และขอขอบคุณประชาชนที่ให้กำลังใจ และในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ตนมั่นใจ แม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ ผู้บัญชาการทหารบก และผู้บังคับชาตามลำดับชั้น ในการคัดเลือกคนที่เหมาะสม กองทัพสร้างคนมาทดแทนได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า หลังเกษียณฯกังวลหรือไม่ว่าจะตกเป็นเป้าโจมตี คดีความที่จะตามมา จากกลุ่มที่เสียผลประโยชน์จาดขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า เราไม่ได้ทำอะไรผิด พร้อมต่อสู้ทุกรูปแบบอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ฝ่ายกัมพูชาล็อกเป้าท่านแม่ทัพ หมายถึงหมายหัวท่านไว้ พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า “ผมก็ล็อกเป้า หมายหัวเขาไว้เหมือนกัน”
พล.ท.บุญสิน ยังถึงกรณีกัมพูชานำตาข่ายกั้นโดรนว่า ถือเป็นยุทธวิธีที่ต่างฝ่ายต่างดำเนินการเพราะเราไม่รู้ว่า โดรน จะมาจากทิศทางไหน ฝ่ายเราก็กั้นเช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันโดนสังหาร โดยทางฝ่ายกัมพูชากั้นในที่ตั้งฐานของเขา ในส่วนของเราก็ดำเนินการ
และต้องขอบคุณประชาชนที่เราตาข่ายมามอบให้ เพื่อป้องกันโดยสังหาร พล.ท.บุญสิน ยังระบุว่าแม้ปัจจุบันกองทัพภาคที่ 2 ไม่ได้โพสต์รับบริจาคแล้ว แต่หากประชาชน นำสิ่งของมาให้ก็พร้อมที่จะรับไว้ พร้อมยืนยันว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ไม่ได้โทรศัพท์มาหา
และลวดหนามหีบเพลงกองทัพก็ได้ครบแล้ว ขณะที่รัฐบาลก็สนับสนุนให้ ยังเป็นที่รู้กันว่า การจัดซื้อหากรอระเบียบราชการ มีความล่าช้า และในการสู้รบที่ผ่านมาเราสามารถยึดพื้นที่ได้ 11 จุด จึงมีความจำเป็นต้องใช้และลวดหนามหีบเพลง จำนวนมาก
เพื่อลดการลาดตระเวน แต่บางจุดก็จำเป็นต้องลาดตระเวน ป้องกันทหารกัมพูชารุกคืบยึดพื้นที่คืน อาจใช้โดรน รถกวาดทุ่นระเบิด ทั้งนี้หากประชาชนยังสนับสนุน นำมาให้เราก็ยินดี เพียงแต่ไม่ได้โพสต์ พล.ท.บุญสิน ยืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้งกับรัฐบาล
กองทัพภาคที่2ทำหน้าที่ป้องกันชายแดน ส่วนรัฐบาลก็ทำหน้าที่ของรัฐบาล ในฐานะฝ่ายบริหาร อย่างไรก็ตาม ก็เรียกร้องให้ประชาชนรับฟัง ข้อมูลข่าวสาร จากหน่วยงานราชการ ที่เชื่อถือได้ในเรื่องของ การอพยพ และการแจ้งเตือน
ไม่อยากให้เชื่อข้อมูลที่เชื่อถือไม่ได้ ทำให้เกิดความตื่นตระหนก ปัจจุบันสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่างฝ่ายต่างอยู่และต่างเฝ้าระวัง
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวปิด ศบ.ทก. เป็นเรื่องของรัฐบาล ทหารก็ปฏิบัติหน้าที่ต่อ และที่ผ่านมา กองทัพ ชี้แจงข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนทราบอยู่แล้ว ทั้งในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 และกองทัพบกที่ร่วมกันชี้แจง