เรียกว่าเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลที่หลายคนต่างพากันจับตามอง กรณีของวัดพระบาทน้ำพุ ล่าสุด ทางด้านนักแสดงสาว ส้มเช้ง สามช่า ยังได้ออกมาเล่าถึงเหตุการณ์ที่เจ้าตัวเคยไปทำบุญที่วัดแห่งนี้ผ่านทางรายการไทยรัฐบันเทิงว่า “ครั้งแรกที่ไปวัด เธอรู้สึกประทับใจเพราะมีพระออกมาต้อนรับ พูดคุย
และให้พร จนเกิดความอิ่มบุญและตั้งใจกลับไปอีก แต่เมื่อครั้งหลัง เธอเลือกนำสิ่งของไปถวายแทนเงินสด กลับไม่มีพระออกมาต้อนรับเหมือนเดิม
ทำให้เกิดความสงสัยว่า ที่นี่คือวัดจริงๆ หรือกำลังทำงานในลักษณะเหมือน “บริษัทเอกชน” กันแน่ ต่อมาเธอยังสังเกต เห็นศิลปินตลกคนหนึ่ง
ไปยืนร้องเพลงตามสถานที่ต่างๆ พร้อมกล่องรับบริจาค ซึ่งส้มเช้งเองก็เคยมีโอกาสร่วมร้องเพลงการกุศล แต่กลับมีคนสะกิดเตือนว่า “อย่าไปยุ่งเลย เพราะเขาไม่โปร่งใส”
อีกทั้งยังมีการพูดถึงระบบ “แบ่ง 70/30” คือ 70% เข้าวัด ส่วนอีก 30% เป็นค่าตอบแทน ทำให้เธอรู้สึกสับสนว่าแท้จริงแล้วนี่คือ “บุญ” หรือ “อาชีพ” กันแน่
นอกจากนั้น เธอยังเล่าประสบการณ์ที่ทำให้ผิดหวัง เมื่อได้นำ โปรตีนหลายลัง ไปถวายให้ผู้ป่วย แต่กลับไม่ได้รับการต้อนรับหรือคำขอบคุณจากพระหรือใครเลย
บรรยากาศกลับเต็มไปด้วยโต๊ะทำงาน เลขาฯ และเจ้าหน้าที่ ทำให้รู้สึกเย็นชาไร้อบอุ่น ขณะเดียวกัน เพื่อนของเธอก็เคยเจอของบริจาคบางอย่างถูกนำไปทิ้ง
หรือแม้แต่ถูกนำออกมาขาย แม้จะหมดอายุแล้วก็ตามส้มเช้งยอมรับตรงๆ ว่า หมดศรัทธาจริงๆ เพราะสิ่งที่พบไม่ตรงกับภาพลักษณ์ที่เคยเชื่อและศรัทธามาโดยตลอด
จนทำให้เธอหันไปทำบุญกับวัดบ้านนอก หรือวัดที่ขาดแคลนจริงๆ แทน เธอยังเผยอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทำให้ตัดสินใจหยุดใส่บาตร คือการเห็นพระมองซองเงินในมือเธอ
ขณะที่เธอกำลังจะใส่บาตร แทนที่จะก้มหน้ารับอย่างสงบเหมือนพระทั่วไป อีกทั้งยังเคยเห็นบาตรของพระบางรูปเต็มไปด้วยเงินแต่ไร้อาหาร
จนทำให้เธอมองว่า การบิณฑบาตในบางครั้งไม่ใช่การบำเพ็ญเพียรตามหลักศาสนาอีกต่อไป แต่กลายเป็นช่องทางทำมาหากิน ของพระบางรูปแทน
ขอบคุณข้อมูล: บันเทิงไทยรัฐ