ก่อนหน้านี้ทำเอาหลายๆ คนฮือฮา หลัง ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี แนะนำให้รัฐจ่ายค่าชดเชยให้ชาวกัมพูชา ปมบ้านหนองจาน พร้อมประกาศยินดีสมทบเงินเอง 1 แสนบาท ชี้เป็นทางออกยุติข้อพิพาท ” กรณีหนองจาน ตัดใจให้ค่าชดเชย ผมยินดีร่วมออก วันนี้ขอพูดเรื่องหนองจานที่ชาวเขมรออกมาปะทะกับทหารไทยเมื่อวาน
โดยจะแนะนำถึงวิธีแก้ไขด้วย ค่ายอพยพหนองจาน หรือแคมป์ 511 อยู่อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เป็นค่ายอพยพชาวเขมรแห่งแรกและมีผู้อพยพเป็นหลักพัน แต่ถูกกองทัพเวียดนามตีแตกในปลายปี 2527 ชาวเขมรจึงย้ายไปเขาอีด่าง
ค่ายอพยพเขาอีด่าง อยู่อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ห่างจากหนองจานประมาณ 20 กม. ถูกก่อตั้งในปี 2522 เป็นค่ายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีขนาด 2.3 ตารางกิโลเมตร และมีผู้อพยพเขมรมาอยู่ 16,000 คน ผู้ดูแลคือ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ และกระทรวงมหาดไทย (ทหารไม่เกี่ยว)
ผู้ลี้ภัยเขมรเหล่านี้หนีเขมรแดงและนายฮุนเซน มาภายหลังผู้ลี้ภัยกลุ่มนี้ได้ย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และประเทศในยุโรป และที่น่าแค้นก็คือ คนเหล่านี้เพิ่งเดินขบวนในต่างประเทศด่าประเทศไทย พวกนี้เรียกว่า อกตัญญู
จังหวัดสระแก้วและปราจีนบุรี เป็นที่ราบระหว่างเทือกเขาพนมดงรักกับเทือกเขาบรรทัด ดังนั้นหากเกิดสงครามกับญวนหรือเขมร ช่องนี้จะถูกใช้เป็นช่องเดินทัพ ดังนั้นเพื่อป้องกันกรุงเทพฯ ทหารจึงจัดตั้งกองพลที่ 2 ไว้ที่จังหวัดปราจีนบุรี และศูนย์การทหารม้าและกรมทหารม้าที่ 4 ไว้ที่สระบุรีตรงพระพุทธฉาย
ทางการทหารทราบดีว่า ที่ราบช่องเขาช่วงหลักที่ 47-50 ดังกล่าวนี้ มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์มาก จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาไว้ และเขมรทราบดีเช่นกัน จึงพยายามที่จะมายึดเอาเป็นของตน
กรณีหนองจาน เขมรใช้ระบบโล่มนุษย์เข้ามารื้อถอนรั้วลวดหนาม ไทยอย่าหลงกลไปใช้กลยุทธ์ทางทหารเข้าเผชิญหน้าเป็นอันขาด เพราะมันจะกลายเป็นทหารไทยรังแกประชาชนมือเปล่า ต้องใช้ระบบม็อบชนม็อบ ราษฎรไทยเจ้าของเก่าต้องเอาส.ค.1 และ ส.ค.2 ไปแสดงกรรมสิทธิ์
และกรมที่ดินก็ต้องรีบออกโฉนดโดยทันที การแก้ไขปัญหาให้ใช้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองในพื้นที่คือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อปพร. ไปเจรจาและยุติศึก เพราะเจ้าหน้าที่เหล่านี้เขาอาจรู้จักกันและอาจพูดภาษาเขมรได้ กรณีเกิดความรุนแรง ก็เอาตำรวจไปจับกุมดำเนินคดี ซึ่งผมเคยทำแล้ว กรณีชาวเขมรมาบุกป่า หรือมาใช้ที่ดินรอบ ๆ ฝายต้นน้ำที่กรมป่าไม้สร้างตามแนวชายแดน
หากสุดวิสัย ไหน ๆ เราก็ปล่อยปละละเลยให้เขมรมาอยู่อาศัยถึง 40 ปี เราก็เมตตาจ่ายค่าชดเชยให้เขาเสียแค่ 20-30 ครอบครัว พื้นที่ไม่เกิน 100 ไร่ คิดเสียว่าเป็นค่าชดเชย ค่าเสียโอกาส และค่าโง่ ผมยินดีสมทบ 100,000 บาทครับ เราอย่าขี้เหนียว อย่ากลัวเสียหน้า
และศาลฯ หรือ ป.ป.ช. ก็อย่ามายุ่ง เพราะนี่เป็นการทำเพื่อบ้านเมืองโดยแท้ อเมริกาเขายังซื้อรัฐ Texas และ California จาก Mexico ซื้อ Alaska จากรัสเซียเลย ยังไงเรารีบเอาแผ่นดินไทยคืนมาก่อน และถ้าหากชาวเขมรจะเอาที่มาแลกกับเงิน ผมก็ยินดีจ่ายให้และจะมอบกลับให้กรมป่าไม้ไปปลูกสวนป่าทุกตารางนิ้ว”
ต่อมาทางด้านของ ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้โพสต์ข้อความถึงดร.ปลอดประสพ ว่า “ฟุ้งซ่าน เพ้อเจ้อ ถ้าเอาเงินท่านปลอดประสพไปจ่ายคนเดียว ก็แล้วแต่ครับ แต่ถ้าใช้ภาษีประชาชนไปจ่ายให้มัน ผมไม่ยอม ที่คนไทยอยู่ในแผ่นดินไทย แต่อยู่ในที่ป่าสงวนเหมือนกัน ไม่เห็นมีใครได้ค่าชดเชยเลย”
ขอบคุณข้อมูล: ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี , ทนายเกิดผล แก้วเกิด