ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 68 ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก Fongsanan Chamornchan ได้ออกมาโพสต์เผยว่า แม่หมอสมัครเล่นตอนที่599 โดยฟองสนาน จามรจันทร์ เตรียมรับอุบัติภัยใหญ่รอบสาม-สี่
ภาพดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์และดาวจรที่ทำมุมบ่งบอกภัยขนาดใหญ่รอบสาม-สี่ มฤตยูจร(0)-เดินในราศีพฤษภระหว่างกรกฎาคม2565-กรกฎาคม 2572
พระเสาร์จร(7)-เดินในราศีกุมภ์ระหว่าง24สิงหาคม2568-14กุมภาพันธ์ 2569(มีเดินผิดปกติ) พระอังคารจร(3)-เดินในราศีตุลย์ระหว่าง12กันยายน-26ตุลาคม2568
-เดินราศีพิจิกระหว่าง26ตุลาคม-5ธันวาคม 2568
-เดินในราศีธนูระหว่าง5ธันวาคม-สิ้นปี2568
ดังที่ได้ทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่าปี2568นี้เมืองจะเจอกับอุบัติเหตุ หรืออุบัติภัยขนาดใหญ่ระดับเป็นข่าวไปถึงต่างประเทศถึงสี่รอบ ( ไม่นับรวมขนาดย่อม)นั้น บัดนี้เหตุการณ์หลักรอบแรกเกิดไปแล้วคือแผ่นดินไหวที่รอยเลื่อนสะกาย เมียนมาร์
เมื่อ28มีนาคม 2568 เวลา13.20น.แต่ตึกสตง.ไทยที่กำลังก่อสร้างที่กรุงเทพฯกลับถล่มราบลงกองเป็นภูเขาเลากา มีคนตายเฉียดร้อย ยังไม่นับที่บาดเจ็บ
รอบที่สองยิ่งรุนแรง-ดุเดือดลั่นสนั่นเมืองและเป็นข่าวดังไปทั่วโลกกว่าครั้งแรกเมื่อกัมพูชาเพื่อนบ้านเปิดฉากถล่มไทยก่อนหลังยั่วยุมานาน จนนำมาสู่การปะทะกันห้าวันสี่คืน 24-28กรกฎาคม 2568
ในระดับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่เป็นประธานอาเซียน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกายื่นมือเข้าหย่าศึก
รอบนี้ชาวบ้านชายแดนอีสานตั้งแต่อุบลราชธานี -ศรีสะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์เดือดร้อนต้องอพยพหนีภัยสู้รบแสนกว่าคน แม้กระทั่งตราดก็ถูกเปิดแนวรบให้กองทัพเรือลงไม้ลงมือพอหอมปากหอมคอ
ผลคือทหารไทยตายไป15บาดเจ็บเฉียด200คน ส่วนชาวบ้านตายไป17และบาดเจ็บ38 คน รอบนี้แม้จะมีผลเชิงบวกตามมามาก เช่นได้ดินแดนสิบเอ็ดจุดคืน หรือได้ชื่นชมกับวีระบุรุษของชาติอย่างพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่สอง
และแม้จะหยุดยิงกันไปแล้วแต่แรงกดดันอารมณ์ยังคงอยู่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่เผชิญหน้ากันอยู่ด้วยกองกำลังจะนำไปสู่จุดไหน
ในส่วนของดวงเมืองนั้น ยังมีความเสี่ยงการเกิดเหตุอุบัติภัยใหญ่ซึ่งเป็นเหตุหลักอีกอย่างต่ำน่าจะสองครั้งในปีนี้ตามที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ต้น
(ไม่นับรวมขนาดเล็กที่มีเป็นปกติอยุ่แล้ว) ที่มีโอกาสแรงทุกทางทั้งดิน-น้ำ-ลมหรืออากาศหรือแก๊ส-ไฟควันหรือระเบิดถึงเลือดเนื้อชีวิตคือ
1.รอบระหว่าง12กันยายน-26ตุลาคม 2568 รอบนี้เน้นไปที่ไฟควันแก๊สหรือความร้อนเ และต้องอาวุธเขี้ยวงา ตามโฉลก..เกิดภัยไฟพิษ แผกด้วยศัตรูหมู่ทมิฬ
จะต้องเขี้ยวงา เนื้อหนังพังภินท์ ต้องพิษมหิทธิ์หิน…(พระอังคารจร3ที่ราศีตุลย์เล็งพระอาทิตย์ดวงเดิม๑)
และ …จะเกิดการก-ลี-ก-ลำภัย อันตรายราวี ห่อนมีสุขใจ เรือนโรงร้านไฟ และไฟจะฟอนอาตมา…(พระอังคารจร3ที่ราศีตุลย์ทำมุมถึงพระอังคารดวงเดิมที่ราศีพฤษภ
ตัวอย่างปูมโหรที่บันทึกไว้สำหรับอาการรอบนี้ที่เกิดมาแล้วคือคนไทยไม่รู้อิโหน่อิเหน่ไปทำงานต่างประเทศแต่ต้องรับกรรมคือ เมื่อตุลาคม 2566ฮามาสรบกับอิสราเอล ตายไป33คน และถูกจับเป็นตัวประกัน18 คน
2.รอบระหว่าง26ตุลาคม-สิ้นปี2568 ที่น่าจะเกิดเหตุรุนแรงใหญ่ยักษ์อย่างต่ำหนึ่งครั้ง ด้วยปรากฎการณ์ดาวร้ายสองดวงที่หนึ่งเป็นเจ้าของภัย
อาเพศ(มฤตยู0)และอีกดวงเป็นเจ้าของการต่อสู้ สงคราม อุปัทวเหตุ การทะเลาวิวาท ความตาย การบาดเจ็บ อาวุธ กลอุบายเล่ห์เหลี่ยมที่ใช้ประหัตประหารกัน(อังคาร3)แล้วยังเป็นดาวประจำชีพเมืองด้วยตรึงหรือสมาสัปต์กัน
ผู้เขียนไปค้นปูมโหรเก่าหาตัวอย่างเทียบเคียงให้เห็นระดับความรุนแรงของปรากฎการณ์ในอดีตที่ใกล้เคียงกันที่เกิดขึ้นมาก่อนเช่น
9 กันยายน 2531 เวียดนามแอร์ไลน์จากฮานอย ปลายทางสนามบินดอนเมืองตกที่คูคต ลำลูกกา ปทุมธานี ตาย76รอด6คน
หรือใกล้ๆนี้เช่น 1ตุลาคม 2567 ไฟไหม้รถนักเรียนหน้าเซียร์รังสิตตาย25 รอด19คน 17มกราคม 2567 โรงงานพลุระเบิดที่สุพรรณ ตายไป23 คน
หรือแม้แต่คราวแผ่นดินไหวที่เมียนมาร์ แต่ตึกสตง.ถล่มก็เกณฑ์นี้ ถ้าทางน้ำก็เกิดปรากฎการณ์น้ำ-โคลนท่วมเชียงรายหนักสุดรอบร้อยปีเมื่อ11กันยายน 2567ก็เกณฑ์นี้เป็นสื่อล่อ
อันที่จริงผู้เขียนก็บอก-ทำนายไปอย่างนั้นเอง เพราะปีนี้เมื่อเกิดเรื่องใหญ่สองรอบที่ผ่านมาก็เล่นก็งงตื่นเต้นตกใจขวัญระทึกไปเหมือนกันคือแผ่นดินไหว-ตึกสตง.ถล่มและไทยรบเขมร
เพราะยอมรับเลยว่าเกินคาดคิดจริงๆตามลีลาอาเพศของมฤตยู ฟองสนาน จามรจันทร์ 29 สิงหาคม 2568
ขอบคุณข้อมูล : Fongsanan Chamornchan