เปิดประวัติ อนุทิน ชาญวีรกูล จากทายาทนักการเมือง สู่หัวหน้าภูมิใจไทย

ขึ้นแท่นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 สำหรับ อนุทิน ชาญวีรกูล โดยสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญ และระดับอุดมศึกษาด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัย Hofstra ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ.2532 และจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Mini MBA) เมื่อปี พ.ศ.2533

ในปี พ.ศ.2553 หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน รุ่นที่ 9 (วตท.9), พ.ศ.2555 หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง ด้านการบริหารงานพัฒนาเมือง รุ่นที่ 1 (มหานคร 1)

ปี พ.ศ.2555 หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง ด้านการพัฒนาเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง รุ่นที่ 3 (พ.ต.ส.3), พ.ศ.2555 หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง ด้านวิทยาการพลังงาน รุ่นที่ 1 (วพน.1), ในปี พ.ศ. 2556 หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง รุ่นที่ 17 (บ.ย.ส.17)

พ.ศ. 2557 ปริญญาบริหารธุรกิจดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา, พ.ศ. 2559 หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการค้าและการพาณิชย์ รุ่นที่ 9 (TepCot 9) และ พ.ศ. 2559 โครงการฝึกอบรมการพัฒนาผู้บริหารระดับสูง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พ.ศ. 2560 หลักสูตรการปฏิรูปธุรกิจและสร้างเครือข่ายนวัตกรรม รุ่นที่ 1 (BRAIN 1), พ.ศ. 2560 หลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลทางการแพทย์สำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 5 (ปธพ.5), พ.ศ. 2560 หลักสูตรการบริหารการท่องเที่ยวสำหรับผู้บริหารระดับสูง รุ่นที่ 1 (กทส.1)

พ.ศ. 2560 ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมาศักดิ์ สาขาวิชารัฐประศานศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น, พ.ศ. 2560 ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมาศักดิ์ สาขาวิชาการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, พ.ศ. 2561 : ปริญญาศิลปศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมาศักดิ์ สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

นอกจากนี้ ยังจบหลักสูตรหลักนิติธรรมเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 6 (นธป.6) และหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 61 (วปอ.61) อีกด้วย

ประวัติการทำงานบางส่วน

-พ.ศ.2532 : Mitsubishi Corporation, New York, U.S.A., Production Engineer

-พ.ศ.2533 : บริษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ทางด้านเทคนิค แผนกโครงการทางด้านการเงิน

-พ.ศ.2533 : บริษัท ซิโน-ไทย คอนสตรัคชั่น เซอร์วิส จำกัด, ผู้จัดการทั่วไป

-พ.ศ.2534 : บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน), ผู้จัดการทั่วไป

-พ.ศ. 2535 : บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน): ผู้จัดการทั่วไป

-พ.ศ.2537 : บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน): กรรมการรองผู้จัดการสายงานปฏิบัติการ

-พ.ศ.2538 : 2547 – บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน): กรรมการผู้จัดการ

-พ.ศ.2549 : ประธานคณะกรรมการการก่อสร้างโครงการเขตพระราชฐานฯ

-2551 – 2561 : ประธานกรรมการ บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน)

อนุทิน เข้าสู่วงการการเมือง

พ.ศ.2539 เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (ประจวบ ไชยสาส์น) และดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (พ.ศ.2547 และพ.ศ.2548) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (พ.ศ.2547) ต่อมาถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารของพรรคไทยรักไทย ซึ่งถูกยุบในปี พ.ศ.2549

พ.ศ.2555 สมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย หลังจากพ้นกำหนดการตัดสิทธิทางการเมือง และได้รับเลือกตั้งเป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2555

พ.ศ.2557 ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป อนุทิน ได้สมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 1 แต่การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

พ.ศ.2562 ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป อนุทิน ได้รับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 1 และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบุคคลที่พรรคการเมืองจะเสนอชื่อต่อรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรี

หลังการเลือกตั้ง พ.ศ. 2562 นายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทย ได้เข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ จัดตั้งรัฐบาล โดยเขาได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

พ.ศ. 2566 นายอนุทิน ได้รับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคภูมิใจไทย ลำดับที่ 1 และได้รับการเสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง และต่อมาเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ต่อมารัฐบาลครั้งใหม่ ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ ซึ่งพรรคก้าวไกลส่งไม่ต่อเนื่องจากไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แม้จะเป็นพรรคที่ได้เสียงอันดับ 1 ในการเลือกตั้ง โดยพรรคเพื่อไทยได้เชิญพรรคภูมิใจไทยที่มี สส. 71 เสียง ร่วมจัดตั้งรัฐบาล

พ.ศ. 2566 มาถึงรัฐบาลใหม่ หลังจัดตั้งรัฐบาล และโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งรัฐบาลทั้งคณะ นายอนุทิน ได้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และคุมกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรัฐมนตรีว่าการ อีก 1 ตำแหน่ง

พ.ศ. 2567 เดือน ส.ค. ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นนายกรัฐมนตรี ปมแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ชี้ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง มีลักษณะต้องห้าม และให้รัฐมนตรีพ้นตำแหน่งทั้งคณะ ทำให้ นายอนุทิน มีชื่อเป็นหนึ่งใน 7 แคนดิเตตนายกฯ คนที่ 31

การสิ้นสุดลงของรัฐบาล “แพทองธาร” ได้เปิดพื้นที่ทางการเมืองครั้งสำคัญให้กับ “อนุทิน ชาญวีรกูล” ผู้นำพรรคภูมิใจไทย แม้พรรคจะอยู่ในสถานะฝ่ายค้าน แต่ด้วยจำนวน ส.ส. 71 เสียงในมือ ทำให้ภูมิใจไทยกลายเป็น “กุญแจ” ที่ทุกขั้วอำนาจต้องหันมาจับตาและเจรจาด้วย

สถานการณ์ปัจจุบันทำให้พรรคเพื่อไทยอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด หากแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่เหลือไม่สามารถรวบรวมเสียงในสภาได้เพียงพอ ความเป็นไปได้ที่จะมีการเสนอชื่อ “อนุทิน” ในฐานะ นายกรัฐมนตรีคนกลาง ที่สามารถเชื่อมโยงผลประโยชน์จากหลายฝ่าย ก็เริ่มเด่นชัดขึ้นทุกขณะ

เส้นทางสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของประเทศไทยสำหรับ “อนุทิน” ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่สะท้อนถึงการต่อสู้ การปรับตัว และทักษะการอ่านเกมการเมืองอย่างเฉียบคม ท่ามกลางความวุ่นวายของประชาธิปไตยไทย ชายผู้เคยถูกมองว่าเป็นเพียง “ผู้กำหนดเกม” กำลังจะก้าวสู่การเป็น ผู้เขียนกติกาใหม่ ด้วยตัวเอง