หลังจากที่ทางพรรคประชาชน มีมติโหวตสนับสนุน นายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย ล่าสุด ทางด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่าเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า พรรคประชาชน หันไปจับมือกับพรรคภูมิใจไทย ทั้งที่อุดมการณ์จุดยืน อุดมการณ์คนละแนวคิด
แต่สุดท้ายกลับไปร่วมมือทางการเมืองกันจนได้ ตนได้ตรวจสอบจากสื่อต่างๆ ที่ประชาชน แสดงความคิดเห็น ต่าง รู้สึกเศร้าใจ ผิดหวัง กับการตัดสินใจครั้งนี้ของพรรคประชาชน
ขณะเดียวกันยังก่อให้เกิดกระแสข่าวความเคลือบแคลงสงสัยจากประชาชนตามมาด้วยว่า ทั้ง 2 ฝ่าย มีดีลลับอะไรกันมากกว่าที่ปรากฏตามข่าวใช่หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น
1.กระแสข่าว 44 สส. จากพรรคก้าวไกลในขณะนั้น ที่มีส่วนร่วม แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 มีการรับปากจะไปตกลงเจรจาอะไรให้หรือไม่
2.กระแสข่าวการเสนอตำแหน่งรัฐมนตรีคนนอกให้พรรคประชาชน 8 ตำแหน่ง จริงหรือไม่อย่างไร
3.กระแสข่าวข้อเสนอตกลงเป็นการภายใน พรรคประชาชนต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ไม่ยกเว้นหมวด 1-2 และอาจจะรวมไปถึงการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 ด้วย ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
4. คดีความของ สส.พรรคประชาชน ที่มีกับแกนนำ ที่สนับสนุน พรรคภูมิใจไทย อยู่ในดีลลับครั้งนี้ด้วยหรือไม่ ที่ประชาชนสงสัย นี่คือคำถามที่ ผู้นำพรรคประชาชนต้องตอบ
นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขอตั้งคำถามต่อไปยัง พรรคภูมิใจไทย การไปขอเสียงจากพรรคประชาชนให้โหวตสนับสนุน ชนิดที่ยอมทุกอย่าง ให้ทุกเงื่อนไข
พรรคภูมิใจไทย เคยประกาศไม่ขอร่วมรัฐบาลกับพรรคก้าวไกล สส.ในพรรคไม่โหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี แตกต่างจาก สส.เพื่อไทยทุกคน
ได้โหวตให้นายพิธา การคัดค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาจากพรรคประชาชน สมาชิกพรรคภูมิใจไทยเคยยื่นต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล
จากการปฏิบัติอย่าง 2 มาตรฐาน ต่อการขับ สส.ออกจากพรรค รวมทั้ง สส.ของพรรค เคยอภิปรายโจมตีการแก้ไขมาตรา 112 อย่างรุนแรง ขณะที่พรรคประชาชนเอง
มีดีลลับอะไรแอบแฝง นอกเงื่อนไขที่หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงไว้ ถึงแม้จะพยายามให้ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มาลงนาม MOU มา ยอมรับข้อตกลงต่างๆ นานา
ไม่ใช่แค่ตั้ง สสร.แก้รัฐธรรมนูญ ให้นายกฯ คนใหม่อยู่ในอำนาจ 4 เดือนยุบสภาฯ มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น เพียงแค่เปิดเผยไม่ได้ ใช่หรือไม่?
“ในอดีตพรรคภูมิใจไทยเคยมองพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล พรรคประชาชน อุดมการณ์ต่างกันสุดขั้ว เป็นคนละแนวคิดการเมือง อนุรักษ์นิยม กับ เสรีประชาธิปไตย
ชนิดที่ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ ไม่ขอร่วมสังฆกรรมด้วย เป็นปลาคนละน้ำ แต่ในวันนี้ดูเสมือนว่าจะกลับตาลปัตร พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ยอมทุกเงื่อนไข
พรรคประชาชนเอง ทำตัวน่าผิดหวัง ตัดสินใจอย่างนี้ จะเป็นตราบาปติดตัวไปตลอด และมีกองเชียร์จำนวนมากรู้สึกเศร้าใจ ขอให้เตรียมรับผลกระทบที่จะตามมาทางการเมืองด้วย” นายพร้อมพงศ์กล่าว
ขอบคุณข้อมูล: pptvhd36