ทักษิณ ชินวัตร แจงสาเหตุ เปลี่ยนแผนลงจอดไปดูไบ

หลายคนให้ความสนใจไม่น้อย สำหรับ กรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ใช้เครื่องบินเจ็ทส่วนตัว เดินทางไปต่างประเทศเมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 ก.ย. 68 โดยในตอนแรกมีรายงานว่าจะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ เพื่อพบแพทย์และตรวจร่างกาย และจะกลับไทยในวันที่ 5 ก.ย. 68 นั้น

ต่อมาในระบบ FlightRadar24 ซึ่งใช้ติดตามเครื่องบินทั่วโลก ปรากฏว่า เครื่องบิน Aircraft type (GL7T) Bombardier Global 7500 ที่เชื่อว่าเป็นเครื่องบินส่วนตัวของ นายทักษิณ ได้มุ่งหน้าออกไปทางทิศตะวันตก ข้ามมหาสมุทรอินเดีย

จนล่าสุด ทักษิณ ก็ได้ออกมาทวิตข้อความว่า “วันนี้ผมตั้งใจเดินทางไปสิงคโปร์เพื่อไปตรวจสุขภาพ กับหมอที่เคยดูแลระหว่างอยู่ต่างประเทศ

ตม.ที่ไทย ถ่วงเวลาผมไว้เกือบ 2 ชั่วโมง ทั้งๆที่ผมได้ชนะคดี ที่ถูกห้ามออกเดินทางไปต่างประเทศมาแล้ว มีสิทธิเดินทางเช่นเดียวกับคนไทยทั่วไป

ระหว่างเส้นทางบิน นักบินแจ้งว่า การที่โดน ตม.ถ่วงเวลาผมไว้นาน ทำให้เครื่องจะไปลงสนามบิน Seletar ซึ่งใช้สำหรับเครื่อง Private Jet ลงที่สิงคโปร์ไม่ทัน เพราะสนามบินเปิดให้บริการ ถึงแค่ 4 ทุ่ม เท่านั้น (เวลาสิงคโปร์เร็วกว่าไทย 1ชม.)

เมื่อไม่สามารถไปลงที่สิงคโปร์ได้ ผมจึงตัดสินใจให้นักบินเปลี่ยนแผนไปลงดูไบ เพราะที่ดูไบผมมีหมอกระดูก และหมอปอดที่ผมใช้ประจำมานาน และยังมีโอกาสได้เยี่ยมเพื่อนที่ดูไบ ซึ่งไม่ได้เจอกันมา 2 ปีกว่าแล้ว

ระหว่างรอขออนุญาตจากสนามบินดูไบ นักบินต้องบินวนรออยู่พักใหญ่ จนกระทั่งได้รับอนุญาตจึงได้หันหัวบินต่อไปยังดูไบ

ผมตั้งใจจะกลับไปไทยไม่เกินวันที่ 8 เพื่อเดินทางไปศาลด้วยตัวเอง วันที่ 9 กันยายนนี้ ครับ”

สรุปนะคะว่า สาเหตุที่ต้องไปลงจอดที่ดูไบเพราะว่าสนามบินที่สิงคโปร์นั้นปิดแล้ว และ ทักษิณ ยังยืนยันว่าจะกลับไทยอย่างแน่นอนเพื่อมาที่ศาล

ขอบคุณข้อมูล : Thaksin Shinawatra