เป็นประเด็นที่ทำเอาประชาชนจำนวนมากต่างได้รับความเดือดร้อน จากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ ล่าสุด เรื่องนี้ ดร.เอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (AOC)
ได้โฟนอินเข้ามายังรายการโหนกระแส ชี้แจงว่า มาตรการเหล่านี้ เราไม่ได้เพิ่งทำ แต่เราทำกันต่อเนื่องมานานแล้วกว่า 2 ปี เพื่อติดตามเส้นเงิน
ติดตามเงินในบัญชีต้องสงสัย เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการถูกมิจฉาชีพหลอก แต่ด้วยความที่เราติดตามเส้นเงินลงไปลึกๆ
ก็มีความเป็นไปได้ที่อาจจะไปโดนบัญชีผู้บริสุทธิ์บ้าง แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าของบัญชีที่บริสุทธิ์ สามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ได้หมด ก็จะสามารถปลดอายัดได้
ไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตอนนี้การเอาจริงเอาจังในการติดตามเส้นเงินของมิจฉาชีพเพื่อป้องกันความเสียหายจากมิจฉาชีพ
อาจจะมีบ้างที่มีประชาชนได้รับผลกระทบ อาจจะต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ว่ามาตรการเหล่านี้เป็นไปเพื่อการป้องกันความเสียหายจริงๆ
เพราะตั้งแต่ทาง AOC ร่วมกันทำงานมาตลอด 2 ปี เราสามารถอายัดเงินต้องสงสัยได้กว่า 4 หมื่นล้านแล้ว ถามว่าทำไมบางคนถูกอายัด “ทุกบัญชี”
ไม่ใช่แค่บัญชีที่รับโอนจากบัญชีม้า ก็ต้องบอกว่า การถูกอายัดบัญชี แปลว่าต้องมีหมายจากตำรวจมาแล้วถึงจะได้ดำเนินการอายัด เพราะในส่วนของ AOC
เรามีหน้าที่แค่ส่งให้ธนาคารอายัดการทำธุรกรรม อายัดบัญชีต้องสงสัยไว้ได้แค่ 7 วัน หลังจากนั้นจะต้องใช้อำนาจ ป.วิ.อาญา
ในการดำเนินการ ซึ่งทางเราไม่ได้มีหน้าที่ในส่วนนี้ เป็นตำรวจที่จะทำได้ ต้องไปถามทางตำรวจ
ซึ่งทางด้าน ทนายพัฒน์ อนุสรณ์ ยังได้เผยว่า “หลังจากได้ฟังผู้ตรวจการตอบคำถาม จนต้องยอมรับว่า ที่เรามานั่งคุยกัน
ยังไม่มีคำตอบอะไรให้พี่น้องประชาชนได้เลย ไม่ว่าจะเรื่องการเยียวยา สุดท้ายเขาพิสูจน์ได้ว่าเขาไม่ใช่มิจฉาชีพ
เขาไม่ได้เกี่ยวข้องเลย แล้วการที่เขาไปเสียเงิน เสียเวลา เสียโอกาสในชีวิต รัฐ , ธนาคาร หรือใครจะรับผิดชอบให้เขา”
ขอบคุณข้อมูล: โหนกระแส