เรียกว่าจากการเสียชีวิตของทหารฝั่งกัมพูชา หลายคนต่างออกมาตั้งข้อสงสัยว่าทางทหารฝั่งกัมพูชา นั้นเสียชีวิตไปแล้วเท่าไหร่ หลังจากที่ทาง พลโทหญิงมาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงว่ามีทหารเสียชีวิตเพียงแค่ 5 นายเท่านั้น
ล่าสุดทางสื่อดัง PPTV ได้ออกมาเปิดข้อมูลถึงตัวเลขของทหารฝั่งกัมพูชาว่า กัมพูชาเตรียมกำลังทหารจำนวนมากมาสู้กับทหารไทย
เฉพาะทหารหลัก (ทหารประจำการ) มีร่วม 30,000 นาย และยังสั่งเตรียมพร้อมทหารกองหนุนอีกเพียบ โดยพื้นที่ปะทะหลักอยู่ในเขตกองทัพภาคที่ 2
ซึ่งรับผิดชอบโดย “กองกำลังสุรนารี” เราแบ่งพื้นที่เป็น 3 หน่วย ก็คือ ฉก.1, ฉก.2 และ ฉก.3 ทั้งนี้ทหารกัมพูชา ที่วางกำลังเผชิญหน้าทหารไทย
ฝั่งตรงข้าม ฉก.1 มีจำนวน 13 กองพัน จุดปะทะเดือดในพื้นที่ คือ ภูมะเขือ, ช่องอานม้า พื้นที่ ฉก.2 มีทหารกัมพูชาวางกำลังฝั่งตรงข้ามจำนวน 7 กองพัน
พื้นที่สำคัญ คือ ปราสาทตาเมือนธม, ปราสาทตาควาย ส่วนตรงข้าม ฉก.3 มีทหารกัมพูชา 4 กองพัน นับรวมกำลังทหารกัมพูชาที่เผชิญหน้าทหารกองกำลังสุรนารี
มีทั้งหมด 24 กองพัน หรือ ราว 24,000 นาย โดยแหล่งข่าวฝ่ายความมั่นคงให้ข้อมูลว่า นอกจากกำลังทหารหลักข้างต้นแล้ว ฮุน เซน ยังมีการสั่งระดมทหารกองหนุนจำนวนมาก
โดยตรงข้าม ฉก.1 จำนวน 40 กองพัน, ตรงข้าม ฉก.2 จำนวน 20 กองพัน, ตรงข้าม ฉก.3 จำนวน 17 กองพัน ทั้งนี้รวม 77 กองพัน หรือ 77,000 นาย
ส่วนทหาร BHQ หรือ หน่วยองครักษ์พิทักษ์ฮุน เซน ถูกส่งมาในพื้นที่ช่องบก, และภูมะเขือ 1,000 นายส่วนพื้นที่ “กองกำลังบูรพา”
ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ กองทัพภาคที่ 1 กัมพูชาส่งทหารมาอยู่แนวหน้า 7 กองพัน และมีกองหนุนอีก 11 กองพัน รวม 18,000 นาย
แต่แนวนี้เหตุการณ์สงบ ไม่มีการปะทะส่วนตัวเลขทหารกัมพูชาที่เสียชีวิต รัฐบาลฮุน มาเนต ยืนยันว่ามีแค่ 5 นาย แต่เมื่อส่องดูโซเชียลของชาวกัมพูชา
มีการลือกันว่า น่าจะเสียชีวิตมากกว่า 3,000 นาย สูญหายอีกนับพัน ที่สำคัญคือชาวบ้านต้องจัดการศพกันเองตามยถากรรม
หลายครอบครัวไม่มีแม้แต่โลงศพ หรือ ธงชาติคลุมร่าง ต้องเปิดรับบริจาคเงินทำศพ เพราะรัฐบาลจะให้ความสำคัญกับทหารที่มียศใหญ่โตเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูล: pptvhd36