จากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา ส่งผลให้มีทั้งทหารไทย และ ทหารกัมพูชา เสียชีวิตหลายราย ซึ่งทางโฆษกกองทัพไทยประณาม กัมพูชา ทิ้งศพทหารในพื้นที่การรบ ชี้ไร้มนุษยธรรมและละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ พร้อมเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบต่อทหารของตนเอง
ล่าสุด ทางด้าน นายแพทย์ธนี หรือ หมอแทน ได้เผยถึงถึงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ได้เปิด 4 ข้อเสนอหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้องได้ช่วยจัดการร่างเหล่าทหารประเทศเพื่อนบ้านดังรายละเอียดต่อไปนี้
-เก็บหลักฐานให้ชัดเจน
ถ่ายภาพร่างผู้เสียชีวิตจากหลายมุม พร้อมติดแสตมป์วันที่-เวลา
เก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อเพื่อทำการตรวจ DNA ยืนยันตัวตน ก่อนส่งมอบให้ครอบครัวหรือหน่วยงานต้นสังกัด
-จัดการศพอย่างสมศักดิ์ศรี
บรรจุร่างในถุงเก็บศพคุณภาพสูง
นำไปเก็บในห้องเย็นหรือฝังในพื้นที่ที่เหมาะสม
เตรียมส่งคืนประเทศต้นทางทันทีเมื่อได้รับประสาน
-บันทึกทุกขั้นตอน
จัดทำรายงานการปฏิบัติหน้าที่และบันทึกวิดีโอ
สร้างหลักฐานชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่ไทยดำเนินการด้วยความรวดเร็วและเคารพสิทธิมนุษยชน
-เปิดเผยข้อมูลต่อชาวโลก
รายงานผ่านกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวให้สื่อมวลชนไทย-ต่างประเทศรับทราบ เพื่อแสดงให้เห็นว่าไทยปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ
และมีมนุษยธรรม ทั้งนี้ “หมอแทน” ยังเน้นย้ำว่า นอกเหนือจาก 4 ข้อหลักไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับกัมพูชาในการตั้งคณะทำงานร่วมชายแดน วิเคราะห์ปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัย
และเปิดช่องทางสื่อสารฉุกเฉินระหว่างทั้งสองฝ่าย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย และลดความตึงเครียดในระดับประชาชนที่ติดตามข่าวไทย-กัมพูชาโดยตรง
-ความสำคัญของภาพลักษณ์ระหว่างประเทศ
การตอบโต้ด้วยอารมณ์โกรธแค้นจะทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบในเวทีโลก ภาพลักษณ์ที่ไม่ดีจะส่งผลกระทบ ต่อเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในระยะยาว
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขึ้นอยู่กับผลประโยชน์และเหตุผล “ดังนั้น”การจัดการปัญหาศพทหารกัมพูชาอย่างถูกต้อง
และมีมนุษยธรรมจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยในระยะยาว ทั้งในด้านสุขภาพอนามัย ภาพลักษณ์ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ซึ่งการเสนอ 4 แนวทางปฏิบัติ: เก็บหลักฐาน, จัดการศพอย่างสมศักดิ์ศรี, บันทึกทุกขั้นตอน, เปิดเผยข้อมูลต่อสากล
แนะเพิ่มความร่วมมือไทย–กัมพูชา ตั้งกลไกชายแดนฉุกเฉิน เพื่อเคลียร์ร่างผู้เสียชีวิตอย่างรวดเร็ว
มาตรการดังกล่าว ช่วยยืนยันไทยปฏิบัติตามมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ป้องกันการจี้ประเด็นทางการเมืองในอนาคต
ขอบคุณข้อมูล: Doctor Tany